สืบเนื่องจาก ศปก.ศรชล.ได้รับแจ้งจาก เจ้าของเรือ “เกียรติเจริญ 15” ทะเบียนเรือ 317401862 ว่า เรือลำดังกล่าวนี้ได้ถูกเรือสามกษัตริย์ (ภาษาชาวประมง) รหัสข้างเรือ 3906 หรือ 3907 ซึ่งเป็นเรือของประเทศมาเลเซียจับกุม เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 24 ม.ค.67 โดยเจ้าของเรือไม่สามารถติดต่อไต้ก๋งเรือได้ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าเรือ “เกียรติเจริญ 15” กำลังรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ JDA หรือ Joint Development Area ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย บริเวณไหล่ทวีประหว่างประเทศไทยและมาเลเซียในบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีเนื้อที่ประมาณ 7,300 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองประเทศไม่สามารถเข้าไปทำประโยชน์จากทรัพยากรแร่ธาตุในบริเวณนี้ได้
โดย ศปก.ศรชล.สั่งการให้ ศรชล.ภาค 2 ดำเนินการตรวจสอบ ประสานการปฏิบัติ พร้อมทั้งติดตามการช่วยเหลือ “เรือเกียรติเจริญ 15” อย่างเร่งด่วน จนนำไปสู่การประสานไปยังทางการของประเทศมาเลเซีย เพื่อขอความร่วมมือส่งตัวชาวประมงทั้ง 7 คน ประกอบด้วยไต้ก๋ง 1 คนและลูกเรือ 6 คน รวมทั้งเรือ “เกียรติเจริญ 15” กลับสู่ประเทศไทย และในวันที่ 9 ก.พ.2567 เวลา 15.00 น. นาวาเอก กาจ บุญวิทยา รอง ผอ.ศรชล.จว.นราธิวาส ศรชล.ภาค 2 ร่วมกับสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ อ.ตากใบ ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยได้ลงเรือตำรวจน้ำตากใบ บริเวณปากร่องแม่น้ำโก-ลก เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานและรับมอบเรือประมงชื่อ “เกียรติเจริญ 15” ซึ่งแล่นมาจาก จ.ปัตตานี รุกล้ำเข้าไปทำการประมงบริเวณพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือ JDA เป็นการช่วยเหลือแรงงานประมงไทยทั้ง 7 คนพร้อมเรือประมงสัญชาติไทย
โดยทางการมาเลเซียได้นำเรือประมงลำดังกล่าวมาส่งยังฝั่งไทยบริเวณแม่น้ำโก-ลก เขตชายแดนไทย – มาเลเซีย และลงนามเป็นพยานการส่งมอบ ณ ท่าเทียบเรือ JABATAN KASTAM CHRAJA MALAYSIA อ.ตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และนำเรือดังกล่าวมาจอดเรือเทียบท่าบริเวณท่าเทียบเรือรัชดาภิเษก ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทั้งนี้ นาวาเอก กาจ บุญวิทยา รอง ผอ.ศรชล.จว.นราธิวาส ศรชล.ภาค 2 ได้ตักเตือนชาวประมงไทยทั้ง 7 คน ถึงเรื่องการห้ามเข้าทำการประมงในเขต JDA เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกต่อไป
ข่าว/กรียา/นราธิวาส