จากกรณีทนายความยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรให้ตรวจสอบร้านอาหารแห่งหนึ่งปลูกสร้างและเปิดประกอบการร้านอาหาร อาคารและกำแพงคอนกรีต เขื่อน รุกล้ำลำน้ำคลองวิสัยในพื้นที่รอยต่อริมฝั่งคลองระหว่าง หมู่ 5 ตำบลวิสัยใต้ อำเภอสวี กับหมู่ 12 ตำบลวิสัยเหนือ อำเภอเมือง จ.ชุมพร โดยเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันอีกฝั่งคลองได้รับผลกระทบจากการบุกรุกดังกล่าว ทำให้น้ำเปลี่ยนทิศเข้ามากัดเซาะกินหน้าดินพังทลายหาย พืชผลทางการเกษตรล้มโค่นเสียหายไหลไปกับน้ำ ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 18 มี.ค.นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าฯจ.ชุมพร สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องประกอบด้วย นายประทิน ออมสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร พร้อมด้วยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ปลัดอำเภอเมืองชุมพร ปลัดอำเภอสวี นายก อบต.วิสัยเหนือ นิติกร อบต.วิสัยเหนือ กำนันตำบลวิสัยเหนือ ผู้ใหญ่บ้าน ทนายความผู้ร้อง ผู้ร้อง และข้าราชการครูผู้ถูกร้องเรียน
ทั้งหมดได้เข้าร่วมประชุมภายในที่ทำการอบต.วิสัยเหนือ ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อรับฟังปัญหาในเบื้องต้นของฝ่ายผู้ร้องเรียนที่ได้รับความเดือดร้อนจากถูกน้ำกัดเซาะ โดยฝ่ายที่ถูกร้องเรื่องการบุกรุกสิ่งปลูกสร้างล้ำลำน้ำคลองวิสัยนำเอกสารเป็นภาพถ่ายเมื่อหลายปีก่อนขณะเกิดมรสุมช่วงพายุปาบึกมีน้ำป่าไหลหลากท่วมเอ่อล้นคลองวิสัยทำให้สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหาย ก่อนทั้งหมดบูรณาการลงพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบอีกครั้ง นายประทิน ออมสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบว่า เบื้องต้นพบทำฝายกั้นน้ำและสิ่งปลูกสร้างอาคารคอนกรีตผสมไม้ขนาดกว้าง 4×4 เมตร หลังจากนี้จะทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของเข้าไปชี้แจงภายใน 7 วัน ว่ามีใบอนุญาตหรือไม่อย่างไร ตรวจสอบแล้วถ้าหากมีการรุกล้ำจะแจ้งให้มีการรื้อถอนตามขั้นตอนมาตรา 117 ห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใด ล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำในน้ำ และใต้น้ำ ของแม่น้ำลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทยหรือบนชายหาดของทะเล เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า ทางด้านนางวรรลา จิตตวงศ์ชวลิต ข้าราชการครูที่ถูกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบการสร้างสิ่งปลูกสร้างรกล้ำน้ำคลองวิสัย กล่าวชี้แจงพร้อมแสดงภาพถ่ายว่า สาเหตุที่มีการก่อสร้าง เนื่องจากมีน้ำท่วมบ่อยในช่วงในช่วงพฤศจิกายน ธันวาคม มากราคม มีมรสุมฝนตกเยอะทำให้มีน้ำป่าไหลรุนแรงทุกปี จำเป้นต้องทำขึ้นมาอีกทั้งบริเวณบ้านเป็นช่วงโค้งรับน้ำพอดี น้ำจะพุ่งเข้าบ้าน ส่วนกำแพงกั้นน้ำทำเมื่อ 3 ปีก่อน บ้านไม้ทำเมื่อ 6 ปีก่อน ส่วนร้านอาหารเพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยน้องเป็นคนขอทำตนไม่ได้ทำเอง ซึ่งอ้างว่าการต่อเติมขออนุญาต อบต.ถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้ถูกร้อง กล่าวอีกว่า มีร้านอาหารแถบนี้มีอยู่เยอะที่ตั้งอยู่ริมคลองตนอยากให้ตรวจสอบให้ทั่วทั้งหมดอย่าเลือกปฏิบัติ ตนเองเป็นครูเรื่องความถูกต้องเข้าใจรับผิดชอบ และมีการกล่าวอ้างว่าต้นปาล์มล้ม 5 แถวนั้นใช่ ต้นปาล์มล้ม 3-4 ต้นเท่านั้น ส่วนนางสาวสิริรัตนา ชูวัจนะ ทนายความผู้รับมอบอำนาจดำเนินการทางกฎหมายทางฝ่ายผู้เสียหาย(ผู้ร้อง) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือเรียนไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เรื่อง ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกรณีร้านอาหารแห่งหนึ่ง ปลูกสร้างเขื่อนกำแพง ลานคอนกรีต โรงเรือน รุกลำน้ำคลองวิสัย ปิดกั้นทางน้ำเดิม จนเป็นเหตุทำให้น้ำไหลบ่าเข้ามากัดเซาะที่ดินซึ่งปลูกปาล์มน้ำมันของผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน และแนวดินคลองวิสัยพังทลาย ต้นปาล์มน้ำมัน ต้นมะม่วงและพืชอื่นๆไหลโค่นลงไปตามกระแสน้ำ และทางผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบแล้วโดยเฉพาะกรมเจ้าท่า ต้องรางวัดประเมินว่าส่วนไหนรุกล้ำ ส่วนไหนไม่รุกล้ำ
ทนายความ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นมากกว่านี้ ทั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับรัฐ และความสูญเสียต่อผู้ต่อ ส่วนตนในฐานะทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย หลังจากนี้จะดำเนินการรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องละเมิดรบกวนสิทธิ์ ปลดเปลื้องทุกข์ เรียกค่าเสียหายซึ่งอยู่ในระหว่างการสำรวจประเมินค่าความเสียหาย ในส่วนของรัฐเองต้องดำเนินคดีทางอาญากับผู้รุกล้ำลำน้ำ และตนก็จะติดตามความคืบหน้าในอีก 15 วันข้างหน้าและเป็นระยะต่อไป
เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร 098-9515199