24 มี.ค. 67 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน 14 จับกุมนายหน้านำพาแรงงานต่างด้าวสัญญาติพม่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบช.ตชด. ,พล.ต.ต.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผบก.ตชด.ภาค 1 , พ.ต.อ.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล ผกก.ตชด. ๑๔ พร้อมชุดจับกุม กองร้อย ตชด.146 นำโดย พ.ต.ท. ณัฐพล พลอมท้วม ผบ.ร้อย ตชด.146, ร.ต.ท.เศรษฐโชค พชรธนไพศาล ,ร.ต.ต.อดุลย์ ขอมีกลาง รอง สว. (ป) กก.ตชด.14 ด.ต.ธีรวัฒน์ คชชะ, ด.ต.พีรวัฒน์ เอ้สมนึก, จ.ส.ต.นที นิจก, ส.ต.ท.พัฒนพงศ์ลิมปิจักร์, ส.ต.ท.ทรรศฤณ ถิ่นเขาน้อย, ส.ต.ท.ฉัตรธนนท์ ชินนะ, ส.ต.ท.นัฐพล กล่อมเสียง, ส.ต.ท.ศิรวิทย์ มีมุข ผบ หมู่ กก.ตชด.14 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ฉก.จงอางศึก นำโดย ร.ต.จีรศักดิ์ ต่างสันเทียะ, ส.อ.ศตวรรษ กองจันทร์เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกรมการปกครอง นำโดย นายอุดร ผโรประการณ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง,ม.ญ.ณัฐพล เปลี่ยนอารมณ์, ม.ญ.ปราภากร จ่าวิสูตร, ม.ญ.สิทธิพันธ์ จันทร์หอม,อส.สว่างวุฒิ บุษบา,ม.ต.ณัฐพล ยอดยิ่ง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าทางช่องทางธรรมชาติ (ช่องสิบศพ) จึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ในจุดเป้าหมายต่อมาเวลาประมาณ 01.00 น. (วันที่ 24 มี.ค.67) ได้พบบุคคลต้องสงสัยเดินออกมาชายป่ายางบริเวณติดกับถนนลาดยางสาธารณะเส้นทางบ้านด่านสิงขร-บ้านทุ่งเคล็ด ม.3 ต.เกาะหลัก จำนวน 10-15 คน จากนั้นชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามกลุ่มคนดังกล่าวจนถึงบริเวณหลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.เกาะหลัก อ.เมือง ขณะเจ้าหน้าที่ซุ่มรอเวลา จนเวลาต่อมาพบว่ามีรถกระบะสีขาว ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมาได้ขับขี่มาตามเส้นทางก่อนถึงบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นได้ปิดไฟด้านหน้ารถลง จึงน่าเชื่อว่ารถคนดังกล่าวเข้ามารับแรงงานต่างด้าวตามที่สาวข่าวรายงาน จากนั้นชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมดจึงนำตัวไปที่กองร้อย ตชด.146 กองกำกับการที่ 14 เพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในรถ
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบชื่อภายหลังชื่อนายวิศณุฯอายุ 39 ปี เป็นชาว ต.ห้วยยาง เป็นผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวโดยมีน.ส.ขนิษฐาฯ อายุ38 ปี เป็นชาว อ.เมืองประจวบฯ นั่งมาในรถ พร้อมนายบัญชาฯ อายุ29 ปี เป็นชาว อ.เมืองเช่นกัน ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนนำพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำโดยนายบัญชาฯ เป็นคนเดินพาแรงงานต่างด้าวออกจากบนเขาต่อจากคนพม่า ได้ค่าจ้างคนละ 500 บาท นายวิศณุฯ และ น.ส.ขนิษฐาฯ (คนดูต้นทางว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่หรือไม่) โดยได้ค่าจ้างหัวละ 300 บาท จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวโดยผ่านล่ามแปลจะเสียค่าจ้างในการเดินทางเข้าประเทศไทยคนละ 18,000 บาท
หลังการตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 98 เม็ด, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Barretta ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 10 เม็ด บรรจุกระสุนในลำเพลิงพร้อมใช้ พร้อมแรงงานต่างด้าวสัญญาติพม่า อีกจำนวน 13 คน (ช 11 ญ 2)โดยนายวิศณุฯยอมรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมหลังฐานของกลางทั้งหมดส่งร้อยเวรทำการสอบสวนโดยแจ้งข้อหานายวิศณุฯ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, เป็นผู้ขับขี่(รถยนต์) มีสารเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน) ในร่างกายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และแจ้งข้อหานางสาว ขนิษฐา “ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และนายบัญชา ข้อหา “ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ พ้นจากการจับกุม
ทั้งนี้ทาง กองร้อย ตชด.ที่ 146 จะได้ทำการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการนำพบแรงงานหลบหนีเข้าเมืองอย่างต่อเนื่องตามนโยบาย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนภัยประชาชนผู้ใดที่ให้การช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม จะมีความผิดซึ่งมีอัตราโทษจำกุมไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 50,000 บาท
หากประชาชนมีเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กองร้อย ตชด.ที่ 146 หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรศัพท์ 032-810552
นัครินทร์/รายงานข่าว
