เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมานั้น พล.ต. ระวี ตั้งพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก (สวพ.ทบ.) เป็นประธานในการทดสอบ และประเมินผล โครงการวิจัย และพัฒนา เพื่อดำรงสภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพยุทโธปกรณ์ ในโครงการ “พัฒนาระบบควบคุมการยิง ปตอ. ขนาด 40 มม. แอล 70” ณ สนามยิงปืนใหญ่เขาพุโลน จังหวัดลพบุรี ซึ่งการยิงทดสอบด้วยกระสุนจริงในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการทดสอบต้นแบบงานวิจัย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณา รับรองผลงานวิจัย และพัฒนาการทางทหารของกองทัพบก ซึ่งประกอบด้วยเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ประการ ได้แก่
1. การเชื่อมต่อระบบควบคุมการยิงนอกตัวปืน กับ ปตอ.40 มม. แอล 70
2. การทดสอบการสั่งลั่นไกยิงกระสุนจริง ในขั้นตอนการยิงอัดฐาน
3. การทดสอบความแม่นยำ การยิงเป้าหมายอยู่กับที่ระยะ 1,000 เมตร
4. การทดสอบความแม่นยำ การยิงแบบติดพันเป้าหมายอากาศเคลื่อนที่
การปรับปรุงปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานแบบ Bofors 40mm L/70 Opto-Electronic System เป็นการปรับปรุงความทันสมัยโดยชุดอุปกรณ์ซ่อมปรับปรุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาด 40 mm แบบ L/70 โดยบริษัท อาร์มี่ซิส ซัพพลาย จำกัด ประเทศไทย ร่วมมือกับสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โดยกรมสรรพาวุธทหารบก ได้ประกาศโครงการจ้างซ่อมปรับปรุงปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน Bofors ขนาด 40mm L/70 กำหนดราคากลางอ้างอิง ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 วงเงินประมาณ 446.5 ล้านบาท ($13 million) โดยมีราคาต่อหน่วยที่ 23.5 ล้านบาท มีการส่งมอบ เพื่อใช้ในการฝึกภายในหน่วย ของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ระหว่างวันที่ 18 – 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565
โครงการวิจัย และพัฒนานี้ เป็นการพัฒนาระบบควบคุมการยิงแบบนอกตัวปืน สำหรับการควบคุมการยิงการทำงานของกลุ่มปตอ.Bofors 40mm L/70 จำนวน 4 กระบอก โดยระบบควบคุมการยิงแบบนอกตัวปืนนี้ จะตรวจจับ และติดตามเป้าหมายทางอากาศที่ได้รับมาจากกล้อง Opto-Electronic หลังจากนั้นจะส่งข้อมูลไปยัง ปตอ.Bofors 40mm L/70 ทั้ง 4 กระบอก ที่ตั้งอยู่ตำแหน่งต่าง ๆ ตามยุทธวิธี เพื่อให้ปืนเคลื่อนที่ติดตามเป้าหมายทางอากาศนั้นสัมพันธ์กัน และเมื่อได้รับคำสั่งให้ป้องกัน และทำลายเป้าหมาย ระบบควบคุมการยิงแบบนอกตัวนี้ จะส่งคำสั่งชดเชยแนววิถีกระสุน และคำสั่งยิงให้กับปืนแต่ละกระบอกในทันที ซึ่งเป็นไปตามยุทธวิธีของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบกไทย สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันภัยทางอากาศด้วยกลุ่มปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานแบบ Bofors 40mm L/70 OES
ระบบควบคุมการยิง OES สามารถนำมาใช้ร่วมกับ ปตอ.Bofors 40mm L/70 ทั้งในรุ่นระบบสัญญาณแบบ Analog Synchro (แบบเดิม) และระบบสัญญาณ Digital รุ่นที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งเป็นไปตามการจัดอัตรายุทโธปกรณ์ตามหลักการกองพันผสมของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ การปรับปรุงความทันสมัยล่าสุดนี้ จะทำให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางสมัยใหม่ รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ(UAV) ตั้งแต่ระบบที่ดัดแปลงจากโดรนใช้งานทางพลเรือน จนถึง UAV ที่ออกแบบสำหรับใช้งานทางทหารโดยตรง
Credit : กองทัพบกไทย