คนร้ายควงปืนบุกยิงเจ้าของฟาร์มวัวดับคาบ้านพัก นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดนาน 2 วัน หลังอดีตภรรยาเอาข้าวมาให้กินพบเป็นศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งปมขัดแย้งชาวบ้านเหตุคนตายปล่อยวัวเข้ากินพืชสวนในพื้นที่จนมีปากเสียงและผู้เสียหายหลายรายทนไม่ไหวขึ้นโรงพักแจ้งความมาแล้ว
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ชินวงศ์ อินทร์ทอง สว.(สอบสวน)สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุพบคนถูกยิงนอนจมกองเลือดเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 102 หมู่ 12 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร จึงรายงานให้พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.สวี รับทราบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ถิรเดช แข็งแรง รอง ผกก.สส.สภ.สวี พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ราชรักษ์ สว.สส.สภ.สวี พ.ต.ต.เจียรศักดิ์ ยินดี สวป.สภ.สวี ร.ต.อ.มานิตย์ มณฑิราช ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชุมพร และแพทย์เวรโรงพยาบาลสวี หน่วยกู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตสวี เร่งตรวจสอบ
บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวใกล้ถนนคอนกรีตสายลูกเสือพัฒนา บริเวณนอกบ้านเป็นคอกเลี้ยงวัวขนาดใหญ่ภายในบ้านใกล้โต๊ะนั่งหินอ่อน พบศพนายนิยม สัญฐาน อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้าจมกองเลือดแห้งกรัง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวลายสก็อต นุ่งกางเกงจีนขาก๋วยหรือกางเกงชาวเล สีแดงเข้ม คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพศพเริ่มอืดบวม
แพทย์ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดมีบาดแผลเข้าบริเวณแขนขวา จำนวน 2 รู ต้นคอ 1 รู และด้านหลัง 1 รู รวมมีบาดแผลจำนวน 4 รู ตรวจสอบไม่พบปลอกกระสุน ภายในบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนบริเวณขอบหน้าต่างไม้มีร่อยรอยคล้ายถูกคมกระสุนเจอะเป็นรู 1 รู และผนังปูนอีก 1 รู เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับให้กู้ภัยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตส่งต่อชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้านพ.ต.อ.วิษณุ เปิดเผยว่า ภายหลังเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมสอบสวนพยานแวดล้อมเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเลี้ยงวัวประมาณกว่า 20 ตัว ตกกลางคืนมักจะปล่อยวัวไปกินพืชสวนของชาวบ้านหลายราย เมื่อผู้เสียหายมาทักทวงค่าเสียหายจากผู้ตายจนปากเสียงเกิดความไม่พอใจกัน ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทำให้เกิดเหตุขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นเดียวส่วนประเด็นอื่นๆนั้นยังไม่มีมูล
คนร้ายคาดว่าใช้อาวุธปืนลูกโม่เนื่องจากลงมือยิงหลายนัดและไม่มีปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ศพผู้ตายส่งไปชันสูตรและผ่าหัวกระสุนออกมาพิสูจน์ว่าเป็นอาวุธปืนชนิดใด ขณะเดียวกันวันนี้ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายและเส้นทางหลบหนีจากกล้องวงจรปิด คาดน่าจะได้ตัวคนร้ายดำเนินคดีตามกฎหมายเร็วๆนี้
เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร 098-9515199