ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงานบริษัอุตสาหกรรมตะแกรงลวดไทย จำกัด และ บริษัท ที เค ที อิเล็คทริค จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 40 หมู่ที่ 1 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร โดยสองบริษัทนี้ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และเป็นผู้ประกอบกิจการรายเดียวกัน คือผู้ผลิตพัดลมรายใหญ่ ในสมุทรสาคร (ยี่ห้อ “ที.เค.ที) ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตำบลนาดีฯ ได้นำรถน้ำดับเพลิงเข้าไปช่วยระงับเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงต้อร้องขอรถน้ำดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยรวมเกือบ 20 คัน พร้อมรถสนับสนุนจากนอก ภายใต้การควบคุมสั่งการของ ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ฯ โดยมี พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.วิชิต ลุนผา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาตร และเจ้าหน้าที่ สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมดูแล ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็นไฟไหม้ครั้งใหญ่
โดยปรากฏว่า ที่ด้านหน้าบริษัทแรกลึกเข้าไปถึงด้านหลังโรงงานนั้นเสียหายเกือบทั้งหมด นอกจากนี้มีรถยนต์บรรทุกที่ใช้ขนส่งสินค้าได้รับความเสียหายอีก 3 คัน และในส่วนของสำนักงานก็ได้ถูกไฟเผาได้รับความเสียหายเช่นกัน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯ นั้น น้ำที่บรรทุกใส่รถมายังไม่เพียงพอการการดับไฟในครั้งนี้ จึงต้องใช้วิธีดึงน้ำจากบ่อเลี้ยงปลาที่อยู่ด้านข้างบริษัทฯ มาช่วยดับไฟ และต้องฉีดสกัดจากทางด้านหลังบริษัทซึ่งมีเปลวไฟที่รุนแรงที่สุด โดยได้บริษัทที่อยู่ติดกันเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไอยู่ในวงจำกัดได้
สอบถามนายคมสันต์ เชาว์จิรพันธ์ อายุ 70 ปี เจ้าของสถานประกอบการฯ ให้การว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นช่วงเวลาประมาณตี 1ซึ่งหลังจากที่คนงานเลิกทำงานตอนประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ขณะนั้นมี รปภ.เฝ้าอยู่ด้านหน้าโรงงานเพียงคนเดียว แล้ว รภป.ได้ยินเสียงคล้ายกับมีอะไรบางอย่างระเบิดขึ้นด้านหลังตู้ยาม เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่า เป็นสายไฟช๊อต และมีประกายไฟลุกลามไปตามสายไฟ ก็ได้รีบนำถังดับเพลิงมาฉีดดับหลายถังแต่เอาไม่อยู่ จึงโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงนั้น เพลิงก็ได้โหมลุกไหม้เข้าไปภายในบริเวณโรงงานแล้ว และยังลุกลามอย่างรวดเร็วอีกด้วย เนื่องจากบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เป็นโกดังเก็บเม็ดพลาสติกและพลาสติกที่ฉีดแล้วเพื่อรอการขึ้นรูปทำอุปกรณ์พัดลม จึงเป็นวัสดุติดเชื้อเพลิงอย่างดี จากนั้นก็ลุกลามไปยังส่วนผลิตพัดลม และโกดังเก็บพัดลมที่ผลิตเรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าเผาวอดทั้งหมดจนแทบไม่เหลืออะไรเลย แม้โรงงานแห่งนี้จะทำประกันวินาศภัยไว้ แต่มาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน เพราะโรงงานแห่งนี้ตนเองและครอบครัวช่วยกันค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ ต่อเติมมาทีละเล็กละน้อย จนปัจจุบันตั้งอยู่บนเนื้อที่ราวๆ 4 ไร่ เปิดกิจกรรมาตั้งแต่ปี 2544 หรือเกือบจะ 30 ปีแล้ว ไม่เคยคาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับโรงงานของตน ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ไม่น่าจะเกิน 100 ล้านบาท และไม่น่าจะไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาททั้งนี้ทางด้านของ ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการณ์เหตุการณ์ ก็บอกว่า หลังจากที่เพลิงสงบลงแล้ว ต้องให้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรโรงงานเข้ามาประเมินความเสี่ยงก่อน เนื่องจากตัวอาคารถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง และจากนั้นจะได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป
เมื่อเวลา 07.20 น.ของวันเดียวกัน (22 พ.ย.67) นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร (คนใหม่) ก็ได้ลงพื้นที่ไปติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรับฟังการรายงานสถานการณ์ล่าสุดจาก ร้อยตำรวจเอกสัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร และ นายคนึง ทองเที่ยง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมกันนี้ยังได้มีการพูดคุยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุพร้อมรถน้ำดับเพลิงอีก 6 คัน คือ ทต.นาดี 2 คัน,ทม.คลองมะเดื่อ 1 คัน ทต.คอกกระบือ 1 คัน อบต.บ้านเกาะ 1 คัน และ ทต.บางปลา ส่วนการเผชิญเหตุล่าสุดหลังจากที่เปลวไฟที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงได้สงบลงจนเกือบจะหมดแล้ว คงเหลือแต่กลุ่มไฟในบางจุดของโรงงานเท่านั้น เช่น บริเวณกลางโกดังที่โครงหลังคาเหล็กถล่มลงมาทับอุปกรณ์มอเตอร์พัดลม ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปดับได้ จึงทำให้ไฟยังดับไม่สนิท ก็ต้องใช้วิธีการนำรถแบ็คโฮเข้ามาขุดคุ้ยตรงจุดที่ยังมีแสงเพลิงเล็ดรอดออกมา แล้วให้เจ้าหน้าที่ฯ ฉีดน้ำตามเข้าไป ก็จะทำให้เปลวเพลิงทั่วบริเวณโรงงานดับลงได้อย่างสนิทและไม่เกิดการปะทุขึ้นใหม่ นอกจากนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้มีการพูดคุยและให้กำลังใจนายคมสันต์ เชาว์จิรพันธ์ อายุ 70 ปี เจ้าของสถานประกอบการ และลูกจ้างของโรงงานแห่งนี้ที่ต้องหยุดงานชั่วคราวอีกด้วย.
มานพ ข่าวมหาชัย