สมุทรสาคร – ทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เพจเฟซบุ๊ก “ขายพอต ราคาส่ง มหาชัย”

ภายใต้การอำนวยการของ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ  ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ร้อยตรี ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. ที่ทำการปกครองจังหวัดสมุทรสาคร (กลุ่มงานความมั่นคง) ได้สืบทราบว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยเพจเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อเพจว่า “ขายพอต ราคาส่ง มหาชัย” ดังนั้นจึงได้แจ้งให้ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ทราบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาครจึงได้มอบหมายป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะเลขานุการชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองดำเนินการให้สายลับทำการล่อซื้อ โดยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ได้ให้สายลับทำการสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากร้านดังกล่าว โดยตกลงนัดหมายซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้า ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณร้านสะดวกซื้อซีเจ ซอยวัดป้อม ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อถึงเวลานัดหมายนายชัยวัฒน์ (ทราบชื่อและนามสกุลภายหลังการจับกุม) ผู้ถูกจับกุม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อซีเจและส่งข้อความทางแชทเฟซบุ๊กหาสายลับเพื่อจะซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อนายชัยวัฒน์ฯ ได้เจอสายลับแล้ว จึงได้ส่งมอบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2 อัน ให้กับสายลับ เมื่อสายลับได้รับบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2 อันแล้ว สายลับจึงได้ส่งเงินเป็นธนบัตร ฉบับละ 500 บาทจำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 2 ง 1314540 และธนบัตร ฉบับละ 100 บาท จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 9 พ 2543909 (ที่ได้ลงบันทึกหลักฐานหมายเลขธนบัตรล่อซื้อ) ให้กับนายชัยวัฒน์ฯ เมื่อชุดจับกุมทราบว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจริง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและแสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พึงพอใจของนายชัยวัฒน์ฯ เข้าควบคุมตัวและสอบถามว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าครอบครองอยู่อีกหรือไม่ เพื่อทำการขยายผล ซึ่งนายชัยวัฒน์ฯ ได้ยินยอมให้ชุดจับกุมพานายชัยวัฒน์ฯ ไปที่บ้านพักของนายชัยวัฒน์ฯ ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 927/207 ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จากการตรวจค้นพบของกลางลำดับที่ 2 ซุกซ้อนอยู่ในถุงพลาสติกซึ่งวางอยู่บนชั้นวางของภายในบ้านหลังดังกล่าว ดังนั้นชุดจับกุมจึงได้สอบถามนายชัยวัฒน์ฯ ว่าของกลางดังกล่าวเป็นของผู้ใด ซึ่งนายชัยวัฒน์ฯ ให้การยอมรับว่าตนได้มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจริง และยอมรับว่าของกลางเป็นของตนจริง ดังนั้นเจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับกุม “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา ๒๔๒ และมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๗” และ”ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าที่ออกตามความในมาตรา29/9 วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ทั้งนี้ได้นำตัวผู้ถูกจับกุมและของกลางมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาครต่อไป

Credit : Facebook Fanpage สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ