เจ้าหน้าที่ร่วมจับกุมผู้ต้องหาชาย 1 รายพร้อมของกลาง ลูกเสือโคร่ง 4 ตัว

15 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเวลา 04.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (ชุดพญาเสือ) สถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ร่วมดำเนินการตรวจยึด จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ นายถนัด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี พร้อมของกลาง ลูกเสือโคร่ง อายุประมาณ 2 เดือน จำนวน 4 ตัว (ตัวผู้ จำนวน 2 ตัว และตัวเมีย จำนวน 2 ตัว) พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด ได้แก่ ตะกร้าเดินทาง จำนวน 2 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ จำนวน 1 คัน บริเวณภายในปั๊มน้ำมันบนถนน 212 อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ร่วมกันติดตามพฤติกรรม ของนายถนัดฯ ซึ่งอยู่ในขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าและไม้มีค่าส่งขายเพื่อนบ้านโดยมีนายทุนเป็นชาวลาวและเวียตนามให้การสนับสนุน จึงได้จัดสายลับติดตามความเคลื่อนไหว ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ได้สืบทราบว่าจะมีการส่งลูกเสือในพื้นที่จังหวัดหนองคาย แต่ทางนายถนัดฯ ได้ทำการเคลื่อนจุดส่งลูกเสือเป็นจังหวัดมุกดาหาร คณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามมาที่จังหวัดมุกดาหาร จนกระทั่งคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 03.30 น. คณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ดำเนินการจับกุมนายถนัดฯ พร้อมของกลางได้ดังกล่าว

ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว มีความเห็นร่วมกันว่าการกระทำดังกล่าวของนายถนัด กรณีค้าและครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลูกเสือโคร่ง จำนวน 4 ตัว พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดดังกล่าวข้างต้น มีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 23 ฐาน “ผู้ใดจะนำเข้าหรือส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ สัตว์ป่าควบคุม ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 93 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายถนัด ผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองพร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมอบให้พ.ต.ต.สุชาติ พาโคกทม รอง สว.(ป) กก.3 บก.ปทส.เป็นผู้กล่าวโทษ และพ.ต.ท. ประทีป ชูศรี รอง ผกก.3 บก.ปทส. เป็นพยานในคดีและขอความเห็นชอบจากพนักงานสอบสวน ขอรับของกลาง ลูกเสือโคร่ง จำนวน 4 ตัว พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด ได้แก่ ตะกร้าเดินทาง จำนวน 2 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ จำนวน 1 คัน ไปส่งมอบให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ดูแลและเก็บรักษาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป

Credit : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ