จากกรณี นางสาวจิรันธนิน แตงขาว อายุ 30 ปี ขับ เก๋ง BMW ชนรถ จยย.นักเรียนชาย ม.4 และนักเรียนหญิง ม.2 ตายพร้อมแม่ 3 ศพ ขณะกลับจากเรียนพิเศษ ตำรวจตรวจสอบพบภาพในมือถือคนขับถ่ายหน้าปัดไมค์ความเร็วถึง 207 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหตุเกิดเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา



ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 29 พ.ย.67 ที่บ้านงานศพของผู้เสียชีวิต 3 แม่ลูก ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 130/1 หมู่ 3 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร โดยตั้งหีบศพเรียงกันทั้ง 3 ศพ มีหีบศพแม่ตั้งอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านซ้ายเป็นลูกชายและด้ายขวาเป็นลูกสาว มีหรีดจากหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องที่ และญาติสนิททั่วไป และมีหรีดของ นางสาวจิรันธนิน แตงขาว ผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW มาตั้งอยู่หน้าหีบศพด้วย
นอกจากนั้นได้มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง ปภ.กรมกิจการเด็กและเยาชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ พรบ.กลาง มาร่วมพูดคุยถึงการช่วยเหลือและมอบเงินประกันเบื้องต้นให้กับ นายประกฤษณ์ รันตภา อายุ 52 ปี หัวหน้าครอบครัวผู้สูญเสีย
นายประกฤษณ์ รันตภา บิดาของสองนักเรียนและสามีของผู้เสียชีวิต 3 ศพ กล่าวว่าตอนนี้ตนยังมีความสงสัยเกี่ยวกับคนขับใช่ตัวจริงหรือไม่เนื่องจากตนไม่ได้รับรู้ข้อมูลอะไรเลย เคยขอดูหลักฐานกล้องวงจรปิดจากตำรวจก็บอกให้ดูไม่ได้ และกลับเห็นภาพคลิปจากหน้ารถเก๋ง BMW ที่มีเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นช่วงคลิปสั้นๆตอนรถเก๋งขับชนรถจักรยานยนต์เท่านั้น
นายประกฤษณ์ กล่าวต่อว่าตนคิดว่าคลิปในช่วงที่รถเก๋งชนแล้วเสียหลักไปจอดอยู่ไหล่ทาง ตอนนั้นตนคิดว่ากล้องหน้ารถเก๋งจะต้องจับภาพคนขับตัวจริงไว้ได้ เพราะมีชาวบ้านเห็นและบอกว่าคนขับเป๋นผู้หญิงได้ลงมาจากรถเก๋งเดินรอบๆรถเพื่อหาแมวตัวที่พามาด้วยและเจอแมวตกใจวิ่งไปซุกอยู่ใต้ท้องรถเก๋ง จากนั้นอุ้มแมวแล้วเดินหลบหนีไปกับความมืด ซึ่งภาพหน้ารถจะต้องจับภาพไว้ได้
นายประกฤษณ์ กล่าวว่า ปีญหาคือว่าต่อไปนี้ตนจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะต้องอยู่เพียงคนเดียว ครอบครัวตนไม่มีลูกเมียเหลืออยู่อีกแล้ว มีแต่คุณแม่อายุมากแล้วที่นอนป่วยติดเตียงใครจะดูแลเพราะตนก็ต้องไปทำงานอยู่ที่ศูนย์ไปษณีย์
” ตนอยากจะถามถึงคนขับรถเก๋งว่า คุณเป็นคนอย่างไร ทำไมถึงได้ขับรถความเร็วสูงถึง 207กม./ชม. และทราบว่าขณะขับรถความเร็วสูงยังถ่ายรูปหน้าปัดไมล์ด้วยแล้วจับพวงมาลัยเพียงมือเดียว ซึ่งรถมีความเร็วสูงถึงขณะนั้น ตนจึงอยากให้กระบวนการทางกฎหมายเอาจริงกับคนแบบนี้ เพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเลย” นายประกฤษณ์
ด้านนายสุวิทย์ เพชรทองไทย อายุ 60 ปี ผู้เป็นลุงเขยกล่าวว่า ตอนนี้ตนเป็นห่วงนายประกฤษณ์มากเพราะคนในครอบครัวตายหมด ไม่เหลืออะไรไว้ให้อีกเลย นอกจากความสูญเสียและความเศร้าโศรก ซึ่งจะทำให้เป็นโรคซึมเศร้า ตนจึงต้องให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนก่อนและคอยช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยติดเตียงไปก่อน ส่วนคนขับนั้นตนเห็นว่ามีพฤติกรรมที่คึกคะนองมาก เพราะขับเร็งมากกว่า 200 กม./ชม.
เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร 098-9515199