วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.30 น. ร.ต.อ.มนตรี เกิดมี รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งบุคคลถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตายที่บ้านเลขที่ 84 ม.2 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้
รายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วิชัย แสงวิเชียร รอง ผกก.สภ.ท่าแซะ พ.ต.ท.สมเกียรติ ฉีดเกตุ สว.สืบสวน สภ.ท่าแซะ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ชุมพร แพทย์เวรประจำ รพ.ท่าแซะ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ในถนนซอยบ้านแก่งตาล ห่างจากสำนักสงฆ์แก่งตาลเพียง 100 เมตร ห่างจากถนนสายเพชรเกษม 10 กม.เจ้าหน้าที่พบศพทราบชื่อภายหลังคือ นายสาธิต บานเย็น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 2 ตำบลรับร่อ อ. ท่าแซะ จ.ชุมพร นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นคอกลม สีเทาดำ สวมกางเกงขาขาวลายพรางทหาร นอนตายอยู่บนที่นอนภายในห้องนอนด้านหลังของบ้าน โดยสภาพศพถูกฟันด้วยของมีคม เข้าบริเวณมุมปากด้าน ซ้ายยาวไปถึงโกนแก้ม เป็นแผลฉกรรจ์และเข้าบริเวณก้านคอด้าน ซ้ายเกือบขาด ตรวจสอบบาดแผลบริเวณปากด้านขวา จำนวน 1 แผล และลำคอด้านขวา จำนวน 1 แผล นอก จากนี้ยังพบรอยเลือดลักษณะกระเซ็นติดอยู่บริเวณฝากผนัง และบริเวณประตูหลังบ้าน จำนวน 1 กอง
จากการตรวจสอบบริเวณบ้านพบว่าประตูหน้าบ้านปิดล๊อกด้านนอก มีทางเข้าออกทางเดียวคือทางประตูหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บร่วมรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนจะให้ชุดกู้ชีพกู้ภัยฯนำศพ ไปชันสูตรอย่างละเอียด ที่ รพ.ท่าแซะ
จากการสอบถาม น.ส.ภุมริน วงค์สุวรรณ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/1 ม.6 ต.วังหลุม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองพร้อมสามี คือนายดำเนิน เนตรสถิต อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.2 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ไปนอนเฝ้าสวนทุเรียนให้กับนายจ้างจนเช้า ก็ได้ขับ รถ จยย.มาที่บ้านของ นายสาธิต หรือใหญ่ ซึ่งเป็นคนสนิทกันกับสามี อีกทั้งบ้านสามีกับบ้านนายสาธิต ห่างกันประมาณ 2 กม.เศษ และเมื่อมาถึง ตนเองและสามี ก็ได้เข้าไปนอนพักเอาแรงที่ขนำ ซึ่งอยู่หลังบ้านที่เกิดเหตุ
น.ส.ภุมริน เล่าอีกว่า จนกระทั่งมาถึงช่วงประมาณ 17.00 น.พี่สาวของสามี ได้โทรศัพท์มาพร้อมไหว้วานให้ช่วยไปเอาจำปาดะ จากที่บ้านไปขายให้ด้วย ซึ่งตนเอง ก็รับปาก แต่ระหว่างที่จะไปเอาจำปาดะ สามีได้บอกว่าหิวข้าว ตนเองก็เลยเดินไปที่บ้านของนายสาธิต โดยเปิดเข้าบริเวณประตูหลังบ้าน และเมื่อเข้าไปในบ้านแล้ว ก็พบว่านายสาธิต นอนอยู่บนที่นอน และสาธิต ได้ทักตนก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ส่วนตนก็เข้าไปในห้องครัว พร้อมกับปิดประตูครัวเพื่อไม่ให้กลิ่นกับข้าวออกไปรบกวนการนอนของนายสาธิต
น.ส.ภุมริน เล่าต่ออีกว่า ขณะที่ตนเองกำลังทอดไข่เจียวให้สามีอยู่ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูด้านหลังบ้าน และไม่นานก็ได้ยินเสียงดังฉับ ตนเองจึงเปิดประตูหลังครัวออกมาดู ก็พบว่า นายสาธิต มีเลือดพุ่งออกมาบริเวณต้นคอ และภายในห้องตอนนั้นไม่มีใครอยู่ ตนเองจึงได้วิ่งออกมาจากบ้านเพื่อมาตามสามี ก็ได้สวนทางกับนายเลี่ยง ซึ่งทราบชื่อจริงและนามสกุล คือ นายอิ้วเลี่ยง แดงสกล อายุ 57 ปี ที่อยู่ 80 หมู่ที่ 2 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยนายเลี่ยง ถามว่ามีอะไร ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนนายสาธิต แล้วสักพักก็เดินออกมา โดยในมือขวาถือมีดงอ เปื้อนเลือด ด้วยท่าทีเร่งรีบ ก่อนจะเดินหายไปทางท่าดูดทราย ตนเองจึงเข้ามาดูก้พบว่า นายสาธิต ถูกฟันเข้าบริเวณใบหน้าอีก 1 แผล เสียชีวิตอยู่บนที่นอน ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งทางตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ระดมออกตรวจค้นบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ โดยมุ่งหน้าไปเส้นทางที่นายอิ้วเลี่ยง เดินหลบหนีไป จนพบตัวนายอิ้วเลี่ยง ผู้ก่อเหตุ ยืนหลบอยู่ในที่มืด ภายในท่าดูดทรายร้าง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ม.13 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ห่างจากจุดเกิดเหตุ ไปเพียง 300 เมตร และใกล้บ้านของนายอิ้วเลี่ยงเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมมีดงอของกลาง มายัง สภ.ท่าแซะ เพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยในเบื้องต้นทางนายอิ้วเลี่ยง ไม่ยอมให้การใดๆเนื่องจากเกิดความเครียด แต่ตอบสั้นเพียงว่า ทะเลาะกันจึงบันดาลโทสะ จึงได้นำตัวเข้าห้องขังเพื่อให้อาการคลี่คลาย โดยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเพราะเกรงว่าจะคิดสั้นเพื่อหนีความผิดที่ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน”
เอกชนะ นวนละมัย ข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร 098-9515199
