วันที่ 7 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่ิอมวลชน ภายหลังเข้ารับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย
- ปัญหาเศรษฐกิจ จะดำเนินการลดรายจ่ายและค่าครองชีพ โดยรัฐบาลจะเร่งดำเนินมาตรการเพื่อลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กระทบต่อประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ค่าเดินทาง และค่าขนส่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มภาระทางการเงินให้แก่ครัวเรือนและผู้ประกอบการ
รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สิน นโยบายนี้มุ่งช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่เปราะบาง ได้แก่ เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย โดยจะดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้กลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง
การเสริมสร้างรายได้ รัฐบาลจะใช้มาตรการทั้งทางกฎหมายและการอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการทำให้รายได้ของชุมชนท้องถิ่นมีความมั่นคงและแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งถือเป็นฐานรากสำคัญของสังคมไทย
- ปัญหาความมั่นคง รัฐบาลจะดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา จะเร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนของทั้งสองประเทศ
“ขอย้ำว่าประเทศไทยจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว และจะไม่ยอมให้คนไทยเสียประโยชน์”
3.ภัยพิบัติธรรมชาติ จะเร่งชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติอย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ และเป็นธรรม นอกจากนี้ยังจะสานต่อนโยบายการพัฒนาระบบเตือนภัยที่เคยริเริ่มไว้เมื่อครั้งที่ผู้บรรยายดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงระบบการเยียวยาและฟื้นฟูด้วย
4.ปัญหาสังคม รัฐบาลเร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรม ขบวนการอาชญากรรมต่างๆ อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) และการพนันทุกรูปแบบ ทั้งที่ผิดกฎหมายและพนันออนไลน์ โดยจะสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศเพื่อกำจัดภัยสังคมเหล่านี้ให้หมดไป
“ขอให้ประชาชนได้มีความมั่นใจว่า ผมมาเป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ไม่ได้มาด้วยบุญคุณของใคร ยกเว้นบุญคุณของพี่น้องประชาชนชาวไทย โดยผ่านผู้แทนราษฎรของท่าน เพราะฉะนั้นผมมีผู้ที่ผมจะต้องตอบแทนบุญคุณอยู่เพียงกลุ่มเดียว ก็คือพี่น้องประชาชนชาวไทย ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของผมอยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว
และกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาทั้งหลายที่ผมได้กล่าวมา 4 ปัญหาหลัก ๆ จะต้องได้รับความร่วมมือ การประสานงานเพื่อให้เจตนารมณ์ของตนเองซึ่งก็คือเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนทุกคนได้ขับเคลื่อนไปด้วยประสิทธิภาพและความรวดเร็ว โดยปราศจากอุปสรรคและสิ่งขีดขวางใด ๆ
“ผมมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ที่ตัวผมและคณะรัฐมนตรีที่ผมกำลังคัดสรรแต่งตั้งให้มาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนนั้น จะไม่มีเวลาที่จะทำการทดลองงาน ผมต้องคัดสรรมาอย่างดี เพื่อที่ว่าทุกคนเมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ก็จะปฏิบัติงานได้ทันทีด้วยความมีประสิทธิภาพ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอนุทิน ชาญชีวกูล กล่าวด้วยว่า ในส่วนความกังวลทั้งหลายของประชาชน ไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ตาม ที่เป็นความค้างคาในเรื่องของจริยธรรม ในเรื่องของตัวบทกฎหมายที่ในบางครั้งพวกผมก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการกลั่นแกล้งใส่ร้าย แต่ถือว่าวันนั้นได้ผ่านไปแล้ว
“เรื่องที่เป็นสิ่งกังวลใจของพี่น้องประชาชน ผมขอเรียนยืนยันว่าตัวผมและรัฐบาล ซึ่งก็หมายถึงรัฐมนตรีทุกคน จะทำงานโดยยึดความถูกต้องของกฎหมายเป็นหลักเท่านั้น และผมขอย้ำนะครับ จะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตามที่มีผู้ห่วงใย ตามที่มีผู้กังวล แต่จะปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงานด้วยกลไกซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและกำหนดไว้ในกฎหมายต่าง ๆ ความยุติธรรมที่จะต้องมีกับผู้คนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการยัดเยียด ปรุงแต่ง หรือกลั่นแกล้งใส่ร้ายอย่างที่เคยมีผู้ปฏิบัติมา ก็ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจ”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากที่จะไม่เข้าไปแทรกแซงแล้ว จะเข้าไปเร่งรัดเปิดเผยครับ เปิดเผยให้กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างต้องอยู่บนโต๊ะ แล้วสามารถอธิบายให้กับพี่น้องประชาชนที่ให้มีความกังวลสงสัยหรือแม้กระทั่งคู่ความได้รับทราบ ถ้าตรงไหนผิด ดำเนินการทันทีแต่ต้องดำเนินการโดยกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่
Cr. Facebook สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร


