Author Archives: admin

สุรินทร์โมเดล ครั้งที่ 2

จังหวัดสุรินทร์ โดย สส.สมบัติ ศรีสุรินทร์ ผุดไอเดีย การค้าชายแดนเพื่อการจับคู่ธุระกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย – กัมพูชา ในงานสุรินทร์โมเดล ครั้งที่ 2 วันที่ 23-25 กันยายน 2565 ที่ตลาดอาเซียน ชายแดนด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

บก.บริหาร นสพ.มติรัฐ เข้าพบ สส.สมบัติ ศรีสุรินทร์

วันที่ 14 กันยายน 65 นายสัณพงศพร ผลพิทักษ์ (บรรณาธิการบริหาร) นสพ.มติรัฐ เดินทางเข้าพบ ท่าน สส.สมบัติ ศรีสุรินทร์ เขต 6 จ.สุรินทร์ กรรมาธิการ กมธ.การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนฯ ณ สัปปายะสภาสถาน (รัฐสภาแห่งใหม่) เพื่อเข้าปรึกษาหารือประเด็นการจัดงาน “สุรินทร์ โมเดล เฟส 2” การค้าชายแดน ไทย – กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างงานเสริมสร้างธุระกิจการค้าชายแดนสู่ความยั่งยืน งานแสดงสินค้าจัดขึ้นที่ตลาด “อาเซี่ยนช่องจอม (ตลาด สส.สมบัติ)” ส.ส.สมบัติ ศรีสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ผุดโปรเจคยักษ์ระดับประเทศ สุรินทร์ โมเดล เฟส 2 ณ ชายแดนช่องจอมตลาดสมบัติ (ตลาดอาเซี่ยนช่องจอม) หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนาการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา สุรินทร์ ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2565 […]

11,258 รายชื่อ ยื่นสภาเสนอร่าง พ.ร.บ. คณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ

วันที่ 13 กันยายน 2565 เวลา 11.00 น. นายสัณพงศพร ผลพิทักษ์ (บรรณาธิการบริหาร) พร้อมคณะกองบรรณาธิการ นสพ.มติรัฐ และคณะภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ นำโดยท่านพลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ เดินทางเข้ายื่นร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ พ.ศ….ต่อท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย โดยท่านประธานสภาฯ มอบหมายให้ท่านที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร น.พ. สุกิจ อัถโถปกรณ์ มารับเอกสารแทน ณ อาคารรัฐสภา (สัปปายะสภาสถาน) เรื่อง พ.ร.บ.คณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ พ.ศ… คณะผู้เชิญชวนเสนอกฎหมายคาดว่าจะได้รับเข้าพิจารณาในการเปิดประชุมสภาในครั้งถัดไป คณะทำงานขอขอบคุณทุกท่านที่เดินทางมาร่วมเป็นตัวแทนเสนอรายชื่อ 11,258 รายชื่อ มาจากทุกภาคส่วนและทุกภูมิภาคในประเทศไทยอย่างครบถ้วน เพื่อให้มี สภาธรรมาภิบาลแห่งชาติ และสภาธรรมาภิบาลระดับท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศ ภาคีเครือข่ายธรรมชาติแห่งชาติ (ภธช.) เป็นองค์กรภาคประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มีแนวร่วมเช่น องค์กรภาครัฐ, องค์กรเอกชน, สถานศึกษา, ชมรม, สมาคม, มูลนิธิ ต่างๆ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อยกระดับการประเมินระดับสากล ในเรื่อง […]

อาจารย์ประคอง ฆราวาสจอมขมังเวทย์แห่งยุค ผู้รังสรรค์ “วิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์”

อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ฆราวาสจอมขมังเวทย์เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในไสยเวทท่านหนึ่งในระดับต้นๆ ของประเทศในยุคนี้มีลูกศิษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย ท่านเกิดเมื่อวันที่  31  ตุลาคม  พ.ศ. 2482 ปัจจุบัน(2565) ท่านอายุ 83 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ในระดับคหบดีคนหนึ่งที่มีความสุขความสบายมากพอสมควร ด้วยความเป็นคนที่ชอบศึกษาทางด้านไสยเวทย์อาคม ชีวิตในวัยหนุ่มท่านจึงชอบเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ผู้แก่กล้าอาคมเข้มขลังเพื่อขอรับการถ่ายทอดวิชา อาทิ อ.เที่ยง น่วมมานา เรียนวิชาด้านคงกระพันชาตรี, อาจารย์อุไร มนตรีกุล เรียนวิชาเสกน้ำมันงาโสฬสวังหน้าลงน้ำมันงาเข้าตัว เพื่อความคงกระพันชาตรี, อาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง เรียนวิชามหาอุด และทำสีผึ้ง, บรมครูปู่วร ก้อนใบ ได้ศึกษาวิชาทางสายมอญ วิชาการทำตะกรุดเสน่ห์มอญ, การทำสีผึ้งสามสี, การทำพระขรรค์เทวดา และการทำรากระหุ่งกันอาถรรพ์ นอกจากนี้ยังได้เรียนวิชากับอีกหลายอาจารย์ ทั้งที่เป็นพระเกจิอาจารย์ และอาจารย์ฆราวาส อาจารย์ประคอง เล่าว่าอาจารย์เที่ยงเป็นฆราวาสที่เก่งคนหนึ่ง ท่านเรียนวิชาการทำเบี้ยแก้สายหลวงปู่รอด วัดนายโรง แต่เบี้ยแก้ของท่านจะลงคาถาเพิ่มเติม โดยจะลงวิชาคงกระพัน และมหาอุดในผ้าแดงแล้วห่อตัวเบี้ยแก้เอาไว้ นอกจากนี้ท่านยังมีวิชาสักยันต์ ดังทางหนังเหนียว หลายคนที่รอดตายเพราะได้สักกับท่านมาก่อน วิชานี้อาจารย์ประคอง ก็ได้เรียนมาด้วย ส่วน อาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง นั้นท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่เผือก […]

ประมวลภาพ งานทอดผ้าป่าเพื่อซื้อที่ดินถวายสำนักสงฆ์ชัยมงคล จ.ราชบุรี

วันที่ 11 กันยายน 65 คณะกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติรัฐ นายสัณพงศพร ผลพิทักษ์ (บรรณาธิการบริหาร) พร้อมด้วย คุณเสนาะปานรัตน์ (ประธานชุมชนสาครธานี) เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมงานบุญทอดผ้าป่าเพื่อซื้อที่ดินถวายแด่บวรพระพุทธศาสนาเพื่อสร้างให้เป็นวัดสืบต่อไปในภายหน้า ณ สำนักสงฆ์ชัยมงคล ม.11 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยมีท่านพระครูกันตธรรมาภิรัต พระอาจารย์สุเทพ กันตธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองโกเจริญธรรม(ธ.) เป็นประธานในการทอดผ้าป่าในครั้งนี้ ขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ อสม. และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 (ผู้ใหญ่สมาน) ที่คอยอำนวยความสะดวกภายในงานนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เกือกม้าเครื่องรางแห่งความโชคดี

ตามธรรมชาติ ของม้านั้นจะชอบวิ่งบนพื้นหญ้า หรือพื้นดิน แต่เมื่อคนจับม้ามาฝึกไว้ใช้งานจึงต้องหารองเท้าให้ม้าใส่ จะได้วิ่งไปได้ทุกที่ ที่โดนบังคับให้ไปเพราะกีบเท้าม้าไม่สามารถจะทนทานต่อ ถนนที่แข็ง กีบเท้าม้าจะได้รับบาดเจ็บ คนจึงหาวิธีแก้ไขด้วยการตอกเกือกม้าที่เป็นเหล็กติดกับเท้าม้าเพื่อแก้ปัญหาการบาดเจ็บของม้า หลายครั้งที่เรามักได้ยินเรื่องราวของเกือกม้ากันมา ซึ่งหากย้อนกลับไปในสมัยโบราณกาลหรือสมัยที่ยังคงต้องใช้ม้าในการคมนาคมขนส่งการค้าขาย หรือแม้แต่การรบ การแข่งขันทางกีฬา หรืออื่นๆแน่นอนว่าม้าได้กลายเป็นสัตว์พาหนะหลักไปโดยปริยาย การนำเกือกม้ามาติดไว้ที่ประตูถือว่าเป็นเครื่องรางป้องกันสิ่งชั่วร้ายในวัฒนธรรมบางแห่ง ในหลายวัฒนธรรมความเชื่อ ถือว่าเกือกม้าเป็นเครื่องรางนำโชค รูปร่าง การสร้าง ตำแหน่งการวางและวิธีการได้มา ถือว่าสำคัญทั้งสิ้นประเพณีทั่วไปถือว่าถ้าแขวนเกือกม้าไว้ที่ประตู โดยปลายง่ามสองข้างชี้ขึ้น จะเป็นสิ่งนำโชคดีมาให้ ถ้าชี้ลง มันจะนำโชคร้ายมาให้ ประเพณีในหลายที่เชื่อแตกต่างจากนี้ ในบางแห่งเชื่อว่า ให้แขวนเกือกม้าให้ปลายสองข้างชี้ลง เพื่อมันจะได้เทโชคให้คุณในบางที่เชื่อว่า ต้องชี้ขึ้นเพื่อโชคมันจะได้ไม่ตกหล่นลงมาในบางวัฒนธรรมเชื่อว่าไม่ว่าจะแขวนชี้ขึ้นหรือลงก็ไม่สำคัญตราบใดที่เกือกม้าต้องเป็นอันที่เคยใช้ใส่ให้ม้ามาแล้วไม่ใช่อันที่สร้างเสร็จใหม่ๆ หรือเป็นเกือกม้าที่พบตกหล่นไม่ใช่อันที่ไปซื้อมา ซึ่งในวัฒนธรรมแทบทุกแห่ง ถือว่าโชคดีอยู่ในตัวเกือกม้าและมันจะเทออกมาให้คุณได้ทางปลาย ตำนานเกี่ยวกับที่มาของความเชื่อเรื่องเกือกม้านำโชคที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคือเรืองเล่าเกี่ยวกับนักบุญดังสตันกับปีศาจ (Saint Dunstan and the Devil) นักบุญผู้นี้ท่านเป็นช่างเหล็ก ใส่เกือกม้าที่มีฝีมือมาก เรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่ง ปีศาจได้ปลอมตัวมาขอให้ท่านใส่เกือกม้าให้ เพราะมันมีเท้าเป็นเท้าม้าท่านสามารถล่วงรู้ได้ว่านี่คือปีศาจจำแรงมา ท่านจึงตอกเกือกม้าลงบนกีบเท้าทำให้ปีศาจเกิดความเจ็บปวดอย่างมาก (บางเรื่องบอกว่านักบุญจับมันตอกหรือมัดไว้กับฝาผนัง) ปีศาจได้รับความเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก มันร้องขอให้ช่วย ท่านดังสตันจึงให้มันสัญญาว่า จะไม่เข้าไปในสถานที่ใดๆ ก็ตามที่มีเกือกม้าแขวนอยู่ที่ประตู ปีศาจให้สัญญาและท่านก็ถอดเกือกม้าอันเจ็บปวดให้แก่มันท่านนักบุญดังสตันได้เป็นอาร์คบิช็อปแห่ง Canterbury ฝรั่งบางท้องถิ่นเชื่อกันว่าบรรดาแม่มดทั้งหลายนั้นกลัวเกือกม้าจึงต้องเดินทางด้วยการขี่ไม้กวาดหรือแปลงร่างเป็นอีกา เป็นนกฮูก […]

เข้าพบ ผอ.แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร

นายสัณพงศพร ผลพิทักษ์ บรรณาธิการบริหาร นสพ.มติรัฐ พร้อมประธานชุมชนสาครธานี นายเสนาะ ปานรัตน์ และคณะกรรมชุมชน เข้าพบ ผอ.แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร พร้อมพูดคุยหารือ ( discuss ) แนวทางการทำงานร่วมกันกับชุมชน เพื่อพัฒนาสมุทรสาครต่อไป

มติรัฐสะพานบุญ

บริษัท มหัตสินวารี จำกัด มอบเงินสนับสนุนกิจกรรม โรงเรียนวัดเกตุมดีศรีวราราม ต.บางโทรัด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดย นสพ.มติรัฐ เป็นสะพานบุญนำมามอบให้

ร่วมสัมมนาและมอบทุนการศึกษา จ.สมุทรสาคร

30 สิงหาคม 65 กองบรรณาธิการ นสพ.มติรัฐ ร่วมสัมมนาเรื่อง ” การเสริมสร้างการเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปและวัฒนธรรม ที่สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ” และมอบทุนการศึกษา ณ โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พร้อมต้อนรับคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร์ โดยมี สส.ทองแดง เบ็ญจปัก สส.เขต 1 จ.สมุทรสาคร ให้การต้อนรับ

ความไม่เข้าใจ แต่แสร้งว่าเข้าใจ

ในสังคมมนุษย์ การเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิต เนื่องด้วยในปัจจุบันชีวิตมนุษย์ทุกคนย่อมผูกติดกับเทคโนโลยีและข้อมูลมหาศาลไม่มากก็น้อย แม้จะมีผู้ที่แสดงตนว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือต่อต้านมัน แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เพราะมันคือวิถีชีวิตปกติของมนุษย์ในปัจจุบันด้วยความที่เทคโนโลยีนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ผู้คนต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้มันเพื่อให้สามารถใช้งานได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนนั้นจะสามารถเข้าใจในเทคโนโลยีไปเสียหมดทุกอย่าง ย่อมต้องมีสิ่งที่ไม่รู้เป็นปกติธรรมดา โดยปกติแล้วจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจ แต่ด้วยความที่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาชั้นสูง จึงทำให้เกิด ”ทิฐิ” ขึ้นมา เพื่อที่จะหลีกหนีความลำบากและความไม่เข้าใจทั้งปวงโดยอ้างเหตุผลนานาในการไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จึงมีหลาย ๆคนที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยีแต่แสร้งว่าเข้าใจ เมื่อมีคนจับผิดได้ก็จะหาเหตุผลข้ออ้างต่าง ๆมากลบเกลื่อนมันไปเสีย ทั้งที่ควรจะแก้ไขมันด้วยการเรียนรู้ ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวที่ผู้คนยอมที่จะมีทิฐิในการแสร้งว่าเข้าใจมันทั้งที่ไม่ได้เข้าใจมันเสียเลย คือ อุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งในปัจจุบันผู้คนไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สมาทานตนว่าเป็น ”คนรุ่นใหม่” หรือกลุ่มคนที่ถูกด่าทอจากคนอีกกลุ่มและไล่ให้เป็น ”คนรุ่นเก่า” ก็ย่อมมีบุคคลประเภทนี้อยู่เป็นจำนวนมาก เพราะแท้จริงการจะเข้าใจอุดมการณ์ทางการเมืองนั้นย่อมต้องใช้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปรัชญา รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ จิตวิทยา และอื่น ๆอีกมากมายหลายศาสตร์ แล้วทำการวิเคราะห์กลั่นกรององค์ความรู้เหล่านั้นให้ตกผลึกเป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ เป็นแก่นที่ผนวกทั้งความรู้และความเชื่อเข้าด้วยกัน จึงจะสามารถยึดเป็นอุดมการณ์ได้ แต่ในปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากที่อ่านข้อมูลเพียงผิวเผิน แต่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นที่ถูกใจประทับใจเป็นอย่างยิ่ง จึงสมาทานยกย่องมันขึ้นเป็นอุดมการณ์และเชิดชูมันอย่างไม่ลืมหูลืมตา นี่หรือเรียกว่า ”เข้าใจในอุดมการณ์” ซึ่งรู้แก่ใจดีอยู่แล้วว่าไม่ได้เข้าใจ แต่มันถูกใจ แต่จะบอกให้คนทั่วไปรับรู้ว่า ”ตัวข้าไม่รู้อะไรเลย แค่ชอบ แค่ฟินกับคำพูดข้อเขียนเหล่านั้น” ก็คงไม่ได้ […]

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ