Category Archives: ข่าวภูมิภาค

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 17.30 น. ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี โดยมี นางสาวภทรภรณ์ แข็งขัน รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี นางพัชรียา พลับแก้ว ผู้จัดการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมเปิดโครงฯ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ร่วมเปิดโครงการตลาดพัฒนาสร้างสุขประจำปีงบประมาณ 2567 จังหวัดอุดรธานี เพื่อสนับสนุนช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการชุมชน OTOP ผู้ผลิตสินค้าชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี กลุ่มสัมมาชีพ กลุ่มอาชีพสตรี อื่นๆ ให้เพิ่มรายได้ ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี สวาท เครือพิมาย ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์  มติรัฐ ประจำจังหวัดอุดรธานี รายงาน 0612301227

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 เกิดเหตุชายวัย 42 ปี ถูกยิง เสียชีวิต ในพื้นที่ หมู่ 10 ต.บ้านโคก อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ต่อมาชุดสืบสวนสภ.สร้างคอม ได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นวัยรุ่นในตำบลเดียวกัน พร้อมอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ โดยผู้ตายซึ่งกลับจากสวนยาง และมีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว  จนเกิดเหตุดังกล่าว ภาพข่าว : จักรพงษ์ บัวคอม ปรีชา ประชามอญ ,ยอดชายย,สภ.สร้างคอม สวาท เครือพิมาย ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์  มติรัฐ ประจำจังหวัดอุดรธานี รายงาน 0612301227

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รับแจ้งเหตุจักรยานยนต์ชนเสาไฟ บริเวณถนนอุดรธานี-หนองบัวลำภู ทางเข้าเขื่อนห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี พบผู้lสียชีวิต ชาย 1 ราย เป็นชาวบ้านหมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตร้อยเวรและแพทย์เวรชันสูตรตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่าเป็นเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟส่องสว่างจนทำให้lสียชีวิต  ภาพข่าว : มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ,ยอดชาย,หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวง จุดบริการหนองวัวซอ สวาท เครือพิมาย ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์  มติรัฐ ประจำจังหวัดอุดรธานี รายงาน 0612301227

วงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ขณะแก๊งวัยรุ่นโจ๋ชาวเมียนมานับ 10 คน ใช้จักยานยนต์ไล่ควบอริชาวไทย ขณะพยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้าน ก่อนใช้ระเบิดปิงปองขนาดใหญ่ขว้างใส่ ทำให้แรงระเบิดกระเด็นไปโดนหลังคาบ้านสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณบ้านเลขที่ 343 ม.12 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน สภ.ธงชัย อ.บางสะพาน ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุหลังได้รับรายงาน โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้าบ้านผู้เสียหายไปตรวจสอบ จึงทราบว่ามีรถจักยานยนต์จำนวน 5 คัน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายคนนั่งซ้อนท้ายอยู่บริเวณด้านหลังคนขับ ขณะวิ่งผ่านหน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยจะเห็นว่ามีจักยานยนต์คันสุดท้ายขว้างวัตถุบางอย่างเข้ามาบริเวณหน้าบ้านจนเกิดการระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้แรงระเบิดกระเด็นกระจัดกระจายสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างบริเวณด้านหน้าบ้าน หลังตรวจสอบจึงนำไปสู่กระบวนการจับกุมผู้ก่อเหตุรวม 11 ราย โดยทั้งหมดเป็นวัยรุ่นชาวเมียนมาที่มาอาศัยอยู่กับญาติในฝั่งไทยบริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างหมู่บ้านห้วยตะเคียน โดยมีนายจ้างในพื้นที่บางรายให้การดูแล เนื้องจากมารับจ้างทำงานอยู่ในประเทศไทยหลายปี ต่อมาวันที่ 10 ต.ค.67 หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่ 12 บ้านห้วยตะเคียน ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ พบว่าที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายของชำห่างจากถนนยางมะตอยในหมู่บ้านประมาณ 3-4เมตร จากการสอบถามนางสาวเนย เจียมดี อายุ 54 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 บ้านห้วยตะเคียน […]

วันนี้ 10 ต.ค. 67 เวลา 15.00 น. นายจีรศักดิ์ แสงหอย นายอำเภอหลังสวน พร้อมด้วย นายกิจจา อุษายพันธ์  ผู้แทนภาคประชาชน ว่าที่ ร.ต.ธีรยุทธ ธีระโสพิศ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร นายปราโมทย์ อุทัยรัตน์ นายกเทศมนตรีเมืองหลังสวน นายอาสา จุลทับ พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน และนางสาวแสงนภา หลีรัตนะ ประธานเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดชุมพร ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง ชิงโล่และถ้วยพระราชทาน มรดกวัฒนธรรมแห่งลุ่มน้ำหลังสวน ประจำปี 2567 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 22 ตุลาคม 2567 ณ สนามแข่งขันกลางภาคใต้ แม่น้ำหลังสวน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร โดยงานประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง มรดกวัฒนธรรมแห่งลุ่มน้ำหลังสวน เป็นประเพณีที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองหลังสวน จัดขึ้นในช่วงวันออกพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 สืบทอดมาอย่างยาวนาน […]

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มงานไทยอาสาป้องกันชาติเมืองนราธิวาส พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมชมกลุ่มกระจูดบ้านทอนอามาน ตั้งอยู่ที่บ้านทอน หมู่ 11  ตำบลโคกเคียน  อำเภอเมืองนราธิวาส  จังหวัดนราธิวาส ซึ่งชาวบ้านที่นี่มีความถนัดในการสานกระจูดสืบสานมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษเกิดเป็นงานหัตถกรรม จึงได้ก่อร่างสร้างกลุ่มกระจูดบ้านทอนอามานขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการศิลปาชีพฯ จำนวน 10 คน นอกจากนี้ยังมีแม่บ้านที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง เข้ามาเรียนรู้และร่วมผลิตชิ้นงานกระจูด ทำให้มีรายได้เสริม จุนเจือในครอบครัว นับว่าเป็นการต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับ “กระจูด” ด้วยการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายใช่ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางเข้ากับยุคสมัย สำหรับกลุ่มกระจูดบ้านทอนอามานนั้นมีนางพัชรินทร์  บินเจ๊ะมิง  เป็นประธานกลุ่มกระจูดบ้านทอนอามาน สมาชิกกลุ่มได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2543 ได้ก่อตั้งเป็นระยะเวลา 24 ปี  โดยแรกเริ่มจะเริ่มจากสมาชิกแค่ 1 คนและพัฒนาจนกระทั่งปัจจุบันมีสมาชิก 10 คน  โดยทางกลุ่มไม่เน้นปริมาณแต่เน้นคุณภาพปัจจุบันได้ทำการส่งกระจูด  ที่ประเทศญี่ปุ่น  เฉลี่ยแล้วปีละมากกว่า 1,000 ชิ้น  และสามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่ม  ปีละ 45,000 บาท เกิดเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมกระจูดหลากหลายลวดลาย เช่น ลวดลายบาติก […]

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) โดยมูลนิธิโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ได้จัดประชุมหารือระหว่างคณะกรรมการภายใน เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อการกุศล ประจำปี 2567 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้ชื่อ “วิ่งไปให้ทุกหัวใจได้เต้นต่อ” โดยมีนายมณทิพย์ ตันติวุฒิกุล ประธานมูลนิธิฯ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้แทนสื่อมวลชน เข้าร่วมฟังรายละเอียดกันอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ปรากฏว่า จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.2567 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. (ณ สถานที่ โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์) ต.หลักสามม อ.บ้านแพ้ว โดยกิจกรรมวิ่งการกุศลในครั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวันครบรอบ 22 ปีของ มูลนิธิโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) พร้อมด้วยเป็นวันครบรอบ 33 ปี ของสโมสรโรตารีบ้านแพ้ว ที่เน้นมุ่งมั่นในการร่วมสนับสนุนชุมชนในการส่งเสริมสุขภาพ พื่อช่วยผู้ด้อยโอกาส  ทั้งนี้ด้านของรายได้ทั้งหมดนำมาใช้จัดตั้งเป็น กองทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้ อาทิเช่น จัดซื้อเครื่องมือแพทย์รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจให้กับทาง รพ.บ้านแพ้ว โดยมี ดร.ละมูล […]

ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ต้องทนสูดดม กลิ่นหมิ่น ฝุ่นละอองจากโรงงานผสมแอสฟัลล์จำนวน 3 แห่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกันในหมู่บ้านเดียว มานานนับ 10 ปี จนคนในตำบลในรัศมี 3-4 กิโลเมตรจากโรงงานล้มป่วยมีอาการระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะคนแก่ ผู้สูงอายุและเด็ก แม้ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเข้าตรวจสอบโรงงานประชุมหาทางออกร่วมกันหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล มีการแก้ไขดีไม่กี่วันกลับมาสร้างปัญหาอย่างเดิม สุดท้ายชาวบ้านเหลือจะทนร้องผู้สื่อข่าวเล่าความทนทุกทรมานมานานหลายปีให้ฟังพร้อมเดินหน้าต่อต้านให้ระงับการผลิตทันทีหากสร้างปัญหาให้ชุมชนอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัครัช  จันทร์ทับ อายุ 49 ปี พร้อมด้วยนายประดิษฐ์  เนียมสุวรรณ  อายุ 53 ปี และตัวแทนชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ประมาณ 50 คน รวมตัวกันถือป้ายเพื่อแสดงถึงความเดือดร้อนบริเวณหน้าโรงงานผสมแอสฟัลล์ตั้งอยู่ริมถนนสายสะพลี-ทุ่งวัวแล่น ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวน 3 โรงที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันสร้างปัญหาแก่ชุมชน พบว่ากั้นด้วยรั้วสังกะสีเขียวสูงประมาณ 2 เมตร และต่อความสูงด้วยผ้าแสลนสีเขียวขึ้นไปอีกรวมความสูงประมาณ 4 […]

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 67 จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้ายร่างกายคาเครื่องแบบผ่านโลกออนไลน์ จนกระทั่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงคลิปดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.67 ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี พล.ต.อ.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เดินทางมาสอบสวนเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเปิดเผยว่า เท่าที่มาสอบถามทราบว่าก่อนเกิดเหตุทางโรงเรียนได้ร้องขอให้ตำรวจอำนวยความสะดวกให้กับขบวนรถนักเรียน เพราะรถที่ใช้บรรทุกนักเรียนเป็นรถบัสทั้งหมด 8 คัน ขบวนรถจะยาวเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงขอให้ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปเป็นหลังจากอำนวยความสะดวกขบวนรถบัสนักเรียนเสร็จแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นรถจยย.ได้เฉี่ยวชนกับจยย.คันอื่นน่าจะเบรคไม่ทัน ทำให้โมโหจึงมีการขับตามกันมาและเป็นภาพที่เป็นตามคลิป สอบสวนเมื่อวานไม่ติดใจกัน แต่หลังจากภาพเผยแพร่ออกไปก็ต้องดำเนินการตามกฏหมายเนื่องจากการทำร้ายร่างกายกันยอมความไม่ได้ ส่วนเรื่องรถเฉี่ยวชนกันเป็นการทำให้เสียทรัพย์เป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ต้องสอบถามว่าจะดำเนินคดีหรือไม่เพราะเป็นความผิดส่วนตัว ถ้าประสงค์จะดำเนินการตามกฏหมายก็ต้องดำเนินการไปและในวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายสหภาพฯ ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ทำร้ายร่างกาย ฯ ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการศาลแขวงนนทบุรี ซึ่งพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหารับสารภาพ ศาลแขวงนนทบุรี พิพากษาเมื่อวันที่ 8 ต.ค.67 ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกรอไว้ 1 ปี และจากกรณีดังกล่าว ส.ต.ท.วีโรดม ณะใจบุตร ผู้เสียหาย ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากนายสหภาพฯ ผู้ต้องหา ศาลมีคำสั่งให้นายสหภาพฯต้องชดใช้เป็นเงินจำนวน 40,000 […]