วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ปรากฏข่าวการขุดลอกและขนย้ายทรายจากคลองหนองข่าวเหนียว ตำบลสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที หลังได้รับข้อมูลว่ามีการนำทรายทะเลออกไปขาย โดยอ้างว่าเป็นการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือชุมชน และรายได้จากการขายทรายจะถูกนำเข้ากองกลางของหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ได้เข้าสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความชัดเจนของข้อกล่าวหาและรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจริง ก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากรสาธารณะไปหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หนึ่งในเสียงสะท้อนที่น่าสนใจ คือคำให้สัมภาษณ์ของ คุณป้าผ่อน หมวดแดง อายุ 73 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ซึ่งออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการบริหารจัดการทรัพยากรของชุมชนในปัจจุบัน โดยป้าผ่อน เล่าว่า เมื่อก่อน ตอนที่ยังดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ชุมชนมีการทำประชาคมอย่างชัดเจน เรามีการลงมติร่วมกันในการใช้งบประมาณเพื่อขุดลอกคลอง โดยเฉพาะบริเวณปากคลองหนองข่าวเหนียว เพื่อเปิดทางน้ำให้เรือประมงพื้นบ้านสามารถเดินเรือได้สะดวก ทรายที่ตักขึ้นมา ก็มีการตกลงในที่ประชุมหมู่บ้านว่า หากมีใครต้องการนำไปใช้ ก็สามารถขอซื้อได้โดยเงินจะเข้าสู่กองกลางของหมู่บ้าน ซึ่งในยุคนั้นกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่เข้มงวดเท่าปัจจุบัน และกรมเจ้าท่าก็ยังยืดหยุ่นให้กับชาวบ้านในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติแบบพึ่งพาตนเอง อย่างไรก็ตาม ป้าผ่อนตั้งข้อสังเกตว่า ในปัจจุบันกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนกลับดูจะเลือนหายไป และชาวบ้านหลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ยังมีการจัดประชาคมหรือไม่ รวมถึงไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับรายได้จากการขุดและขายทรายว่ามีจำนวนเท่าไร และรายได้เหล่านั้นเข้าสู่ชุมชนจริงหรือไม่ และเห็นด้วยว่าการขุดลอกเพื่อให้เรือประมงเข้าออกได้สะดวก เป็นเรื่องดี แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย และต้องโปร่งใส ถ้ามีการขุดแล้วขายโดยไม่ผ่านขั้นตอน หรือไม่ได้ทำหนังสือขออนุญาตอย่างเป็นทางการ ก็อาจไม่ใช่เรื่องของส่วนรวม แต่อาจเป็นธุรกิจของคนบางกลุ่มที่ใช้ช่องว่างของระบบหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง ป้าผ่อนกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และเตรียมเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง […]
Category Archives: ข่าวภาคกลาง
วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 นายธนาคาร ห้วยหงษ์ทอง ประธานองค์กรพัฒนาเด็ก เยาวชน และสังคม (เครือข่ายสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม) พร้อมด้วยนายอิศเรศ สุขชม รองประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารองค์กร และนายภคิน คนเสงี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมกิจกรรมขับเคลื่อนวัฒนธรรมสร้างสรรค์สัญจร ปีที่ 3 เดินหน้าขยายเครือข่ายสู่เด็กเยาวชนสร้างสังคมรู้ทันสื่อยุคดิจิทัลด้วยพลังวัฒนธรรม พร้อมสอนผลิตสื่อสร้างสรรค์สู่สังคม โดยมีนางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ทั้งนี้ เป้าหมายเพื่อเสริมสร้างและปลูกฝังค่านิยม วัฒนธรรม คุณธรรมและจริยธรรม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน เกี่ยวกับการเป็นพลเมืองที่ดีในยุคดิจิทัล เสริมสร้างทักษะการวิเคราะห์สื่อ รู้จักใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันเป็นพลังสำคัญในการดูแลชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน ตลอดจนขยายเครือข่ายเด็ก เยาวชน เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมในและนอกสถานศึกษา พร้อมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมผ่านมิติทางวัฒนธรรม และการรู้เท่าทันสื่อในยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาและขยายเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม และสร้างบุคลากรแกนนำเยาวชนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในมิติวัฒนธรรม ณ โรงเรียนนครนายกวิทยาคม อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก นายธนาคาร ห้วยหงส์ทอง ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครนายก รายงาน
วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการขุดและขนย้ายทรายจากบริเวณปากคลองในพื้นที่ตำบลสามร้อยยอด ไปจำหน่ายให้กับชาวบ้านบางราย ว่าอบต.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐบางรายที่อาจแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ร.ต.ต.ธิติ เปิดเผยว่า เดิมทีโครงการขุดลอกทรายทะเลบริเวณปากคลองหนองข้าวเหนียว และปากคลองหนองแขมใหญ่ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากการร้องขอของชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเกิดตะกอนทรายทับถม ทำให้เรือประมงพื้นบ้านไม่สามารถเข้า-ออกได้ตามปกติ ทาง อบต.จึงได้จัดสรรงบประมาณเพื่อขุดลอก และขออนุญาตดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากกรมเจ้าท่า หลังจากที่ดำเนินการขุดลอกเสร็จแล้ว ทาง อบต.ได้นำทรายขึ้นมากองไว้บริเวณไหล่ทางตามขั้นตอน แต่ต่อมาทราบว่ามีการลักลอบขนย้ายทรายออกไปจำหน่ายให้ชาวบ้านบางราย เพื่อนำไปถมที่ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย และไม่ได้รับอนุญาตจาก อบต.แต่อย่างใด ด้าน ร.ต.ต.ธิติ ระบุต่อและว่า เมื่อทราบเรื่อง ทาง อบต.ได้รีบตรวจสอบ และทำหนังสือรายงานไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า หน่วยงานของ อบต.ไม่มีนโยบายหรือเจตนาแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่า อาจมีการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบางราย กับผู้รับเหมาในการลักลอบขนทรายไปจำหน่าย ซึ่งหากพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องจริง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น และ พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายอย่างโปร่งใส เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ นายก อบต.กล่าว นัครินทร์/รายงานข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริษัท ไดอิชิ พลาสติก จำกัด ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย สนง.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกับทาง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อการจัดกิจกรรม คอนเสิร์ตท่องเที่ยวและบันเทิงเพื่อการกุศล ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ท่องเที่ยวสร้างความสุข สนุกได้กุศล เพื่อคนสมุทรสาคร” โดยมีนางพรรณพิมล ฉายาจิตชยวัศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร, ดร.กชนิภา อินทสุวรรณ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศโดยไทย พร้อมด้วยนางสาวจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์ รอง ผอ.สำนักงาน ททท.สำนักงานเขตสมุทรสงคราม และนายหมวดตรี เอียดเอื้อ ปธ.สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมเปิดตัวกิจกรรมดังกล่าว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานดังกล่าวนี้ก็เพื่อหาทุนรายได้ช่วยสนับสนุนในด้านจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ก่อนส่งมอบให้กับทางโรงพยาบาลกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน และ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้แก่ เครื่องวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติ เพื่อใช้งานบริการช่วยเหลือดูแลแก่กลุ่มเปราะบาง อาทิเช่น คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และประชาชนทั่วไป เป็นต้น “ทั้งนี้โดยภายในงานประกอบด้วยการแสดงคอนเสิร์ตเต็มวงกับ […]
วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 11.00 น. นางวาสนา ธีรนิติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี ได้ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีนายศุภวัตน์ คงดี นายอำเภอค่ายบางระจัน, นายกกิ่งกาชาดอำเภอค่ายบางระจัน, ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี, คณะกรรมการเหล่ากาชาดฯ, สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสิงห์บุรี, เจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดฯ, ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่ดังกล่าว รวมจำนวน 5 ราย โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบภัยรายละ 1 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมแสดงถึงความห่วงใยจากภาครัฐและองค์กรสาธารณกุศล ภาพข่าว : สรวัชร สรรเพ็ชร์ ทีมข่าวจังหวัดสิงห์บุรี // รายงาน
วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีมอบบ้านตามโครงการ “สร้างบ้านและซ่อมแซมบ้านผู้พิการ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส” ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ บ้านเลขที่ 12/4 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าข้าม อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวาระทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 โดยมี นางวาสนา ธีรนิติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยนายอำเภอค่ายบางระจัน คณะกรรมการเหล่ากาชาด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีมอบบ้านพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งด้านที่อยู่อาศัย สุขภาพอนามัย และความปลอดภัย สำหรับปีงบประมาณ 2568 เหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรีได้ดำเนินการสร้างบ้านใหม่จำนวน 2 หลัง หลังละ 120,000 […]
วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร้องผ่านสื่อให้ตรวจสอบการลักลอบขุดและขนย้ายทรายทะเลในพื้นที่ริมชายหาดบริเวณ คลองหนองข้าวเหนียว และริมชายหาดหนองแขมใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในการดูแลของกรมเจ้าท่า โดยมีการนำทรายทะเลไปจำหน่ายให้กับกลุ่มทุนและชาวบ้านที่ต้องการนำไปถมที่ ขณะที่ชาวบ้านมีการนำโพสต์ในไลน์กลุ่มของชุมชนหมู่ 2 ส่งให้ผู้สื่อข่าว ซึ่งในโพสต์กล่าวถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ มีการประการลงโพสต์ถึงการนำทรายทะเลออกไปใช้ประโยชน์ทำรายได้ร่วมกับผู้รับเหมานับหมื่นบาทต่อครั้ง ทราบว่าทำเป็นขบวนการมาหลายปี แต่ไม่มีหน่วยงานใดเห็นพฤติกรรม และอาจมีผู้นำชุมชนบางรายใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับเหมานำทรายทะเลไปใช้ประโยชน์อย่างไม่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งจากโพสต์ในกลุ่มไลน์ชุมชนหมู่บ้าน ที่มีข้อความแนบชัดเจนว่า “ท่านใดต้องการทรายทะเลไปใช้ประโยชน์หรือถมที่ ให้แจ้งได้ที่ผู้ช่วยชาญได้เลยครับ” โดยมีการระบุราคาค่าขนส่งทรายอย่างชัดเจนว่า รถสิบล้อเที่ยวละ 600 บาท พร้อมบริการรถไถเกลี่ยหน้าดิน และรถหกล้อเที่ยวละ 400 บาท ซึ่งการโพสต์ประกาศดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเข้าข่ายนำทรัพยากรของรัฐไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่มีหน่วยงานราชการใดเข้ามาตรวจสอบหรือไม่ ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามโฟสต์ร้องเรียน ปรากฏว่ามีชายวัยกลางคน 2 ราย ขับรถกระบะสีดำเข้ามาหา พร้อมแสดงตัวว่าเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และอีกคนคือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวถึงในโพสต์ โดยทั้งสองคนพยายามอธิบายเหตุการณ์ว่า การขุดทรายในพื้นที่ดังกล่าวเป็นผลมาจากมติชุมชนที่ต้องการเปิดทางน้ำในคลองหนองข้าวเหนียว เพื่อให้เรือประมงพื้นบ้านสามารถสัญจรได้สะดวกขึ้นทำแบบนี้มาหลายปีโดยทางกรมเจ้าท่าไม่ทราบ ขณะที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอ้างว่า ทรายที่ขุดขึ้นมาไม่มีที่กองเก็บ จึงแจ้งชาวบ้านให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยคิดเฉพาะ “ค่าขนส่งและค่าใช้จ่าย” เท่านั้น ไม่ใช่การขายเพื่อหวังผลกำไร ทั้งนี้ชุมชนจะได้รับส่วนต่างเที่ยวละ 50 บาท เข้ากองกลางหมู่บ้านเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การทำธุรกิจส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของ “ความร่วมมือและความสมัครใจ” ของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ประเด็นร้อนที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ในหมู่บ้านคือ การดำเนินการขุดทรายจากพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า โดยไม่มีเอกสารแสดงการขออนุญาตอย่างชัดเจน และยังมีข้อสงสัยว่า การนำทรายทะเลไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวเช่นนี้ แม้จะอ้างว่าเป็นความสมัครใจของผู้รับ ก็อาจเข้าข่ายการลักทรัพย์ในพื้นที่ของรัฐหรือไม่ ขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งมองว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็น “ขบวนการแอบลักหลับกรมเจ้าท่า”ใช้ช่องว่างของระบบราชการในการแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่มีการควบคุมหรือระบบการจัดเก็บรายได้ที่โปร่งใส และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า, สำนักงานที่ดิน, สำนักงานจังหวัด และ ป.ป.ช. ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว นัครินทร์/รายงานข่าว
วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 06.09 น. นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสที่พระครูวิธารปริยัติคุณ (วีรหาญ นิรามโย – คงดี) จำพรรษา ณ วัดแจ้งพรหมนคร อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ในพิธีดังกล่าว มีนางวาสนา ธีรนิติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี, นายอำเภอเมืองสิงห์บุรี, หัวหน้าส่วนราชการ, ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาด, กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี, ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบเรียบร้อยและศรัทธา การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนา สืบสานประเพณีอันดีงาม และเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชนอย่างยั่งยืน สรวัชร สรรเพ็ชร์ รายงาน
วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น.ณ ศาลาประชาคมฯประจำหมู่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลซับจำปา อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี ได้จัดให้มีการประชุม ทำประชาวิจารณ์ โครงการชุมชนล้อมรักษ์ โดยนาย วัลลภ สนแก้ว นายอำเภอท่าหลวง จ.ลพบุรี ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอนภสร โลกวิจิตร เป็นประธานฯ นำโดยกำนัน นนทชัย กลิ่นศรีสุข กำนัน ต.ซับจำปาฯผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ผู้ใหญ่ ศิริพร บุญเรือง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อ.ท่าหลวง คุณหมอ ณัฏฐมัจนี เฉื่อยฉ่ำพร้อมคณะทีมงานของโรงพยาบาลและชาวบ้านผู้เข้าร่วมประชุม เนื้อหาในการประชุมได้ร่วมกันหารือถึงปัญหายาเสพติดและแนวทางการแก้ไข ของตำบลทุกหมู่บ้านซึ่งได้รับการร่วมมือจากทุกภาคส่วนและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดียิ่ง จะมีการเปิดการอบรม ชุมชนล้อมรักษ์ เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคี เอื้ออารีย์ต่อผู้เสพที่พร้อมเข้ารับการอบรมฯ ในชุมชนทุกหมู่บ้านเท่าที่ทราบจะมีปัญหา ดังนี้ ปัญหายาเสพติด ปัญหาของครอบครัวและปัญหาผู้ค้าขายยาเสพติดนำเข้ามาในชุมชนฯ แนวทางเพื่อการแก้ไข ควรตั้งจุดตรวจค้นประจำหมู่บ้าน ติดตั้งกล้องวงจรปิด เปิดการอบรมให้ความรู้ สร้างวิชาชีพฯการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปิดการประชุมเวลา 10.30 น. […]
วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 11.00 น. ณ วัดสว่างอารมณ์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี จัดกิจกรรม “ร่วมใจปลูกต้นไม้” เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2568 โดยมี นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ชาวชุมชน และจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก ภายในงานมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมหลายภาคส่วน อาทิ นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสิงห์บุรี, พลเอกนุชิต ศรีบุญส่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประธานชมรมสิงห์เข้ม (ศิษย์เก่าโรงเรียนสิงห์บุรี รุ่น 70), พระครูใบฎีกาวัฒนา อริยะวังโส เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์, นายรณชัย ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสิงห์บุรี ตลอดจนจิตอาสา และส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมแสดงพลังสามัคคีเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กิจกรรมครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยมีชมรม “สิงห์เข้ม” หรือชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนสิงห์บุรี รุ่น 70 เป็นแกนนำ ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในวัดและโรงเรียน เพิ่มพื้นที่สีเขียว […]