Category Archives: ข่าวภูมิภาค

วันที่ 30 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระศักดิ์ ยมสวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดทุกเขต ได้ร่วมประชุมกัน ที่ห้องประชุมเกาะมัตตรา ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร โดยยกเอาปัญหาภัยแล้ง ขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งได้เชิญผู้แทนหน่วยงานโครงการชลประทานชุมพร โครงการก่อสร้างสำนักงานชลประทานที่ 14 และ โครงการก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 14 มาร่วมประชุม  โดยได้หารือถึงคืบหน้าโครงการสร้างฝายขนาดใหญ่ ทับอินทนิล หมู่ที่ 10 ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแชะ ผู้แทนโครงการก่อสร้างสำนักงานชลประทานที่ 14 เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว ได้รับการบรรจุเข้าเล่มของโครงการก่อสร้างสำนักงานชลประทานที่ 14 ไว้แล้ว ขั้นตอนต่อไป จะมีการส่งช่างเข้ามาสำรวจ ออกแบบ หลังจากนั้นจะดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนล่าง) เพื่อดำเนินการก่อสร้าง นายเฉลิมวริทธิ์ ยอดประเสริฐ สมาชิกสภาเกษตรกรกร  อำเภอพะโต๊ะ เขต 1 ได้ประสานความคืบหน้าโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองแย ซึ่งเนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง หมู่ที่ 15 ตำบลพะโต๊ะ […]

วันที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 13.54 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปวัดกฤษณเวฬุพุทธาราม (วัดไผ่ดำ) อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยมีนายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมนางวาสนา ธีรนิติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี หัวหน้าศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จฯ ซึ่งมูลนิธิมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย ร่วมกับมูลนิธิสิรินธร และพุทธศาสนิกชน จัดขึ้น เพื่อนำจตุปัจจัยไปใช้ดำเนินกิจการ และทำนุบำรุงศาสนสถานของวัด ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากมีเจดีย์เก่าทรงระฆังคว่ำ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ โปรดให้คณะสงฆ์ในปกครองธรรมยุตไปอยู่ประจำ และสร้างอุโบสถขึ้นใหม่ ต่อมาปี 2538 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ประทานชื่อใหม่ว่า “วัดกฤษณเวฬุพุทธาราม” ส่วนชื่อเดิม วัดไผ่ดำ ตั้งตามชื่อหมู่บ้าน เนื่องจากมีป่าไผ่ดำ ปัจจุบัน มีพระสงฆ์และสามเณร จำพรรษา […]

29 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณลุงสมาน อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ นำผู้สื่อข่าวพาชี้จุดขณะที่วงดนตรีรถแห่ในงานบุญงานบวชรายหนึ่ง ทำการทุบลายปูนปั้นบริเวณด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์ภายในวัดดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย เพียงเพื่อต้องการนำรถแห่เข้าไปวิ่งเวียนรอบโบสถ์เรียกเสียงเพลงให้บันดานักแดนซ์ในงานบุญงานบวชได้สนุกสนานกันอย่างเมามัน โดยไม่แคสายตาประชาชนและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ต่างตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มของญาติเจ้าภาพประมาณ 2-3 คน กำลังทำการทุบลายปูนปั้นเก่าแก่ที่ติดอยู่บริเวณซุ้มประตูเข้าโบสถ์จนเกิดความเสียหายทั้งด้านในและด้านนอกซุ้ม  สร้างความตกใจแก่ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ ขณะเข้าร่วมงานบวชแห่นาคเข้าโบสถ์นั้น  หลังเหตุการณ์ทำให้ชาวบ้านและญาติพี่น้องของผู้บริจาคปัจจัยสร้างซุ้มประตูถวายไว้นานหลายปี  ไม่พอใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากบริเวณซุ้มประตูยังมี อัฐิกระดูกของบรรพบุรุษบรรจุไว้ และยังเป็นการทำรายศาสนสถานที่ควรแก่การเคารพบูชา โดยอ้างว่าหลวงพ่ออนุญาตให้ดำเนินการ คุณลุงสมาน เล่าเหตุการณ์ในวันก่อเหตุ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 ที่ผ่านมาและว่า ขณะมีกิจกรรมจัดงานบุญงานบวชภายในบริเวณวัด ของคณะเจ้าภาพรายหนึ่ง ได้มีกลุ่มญาติของเจ้าภาพและวงดนตรีรถแห่มีพฤติการณ์กระทำการโดยการใช้ไม้หน้าสามตีไปที่ลวดลายปูนปั้นที่ติดอยู่บริเวณด้านบนซุ้มประตูเข้าโบสถ์แตกหักกระจัดกระจายเสียหาย บ้างก็ขึ้นยืนบนรถแล้วใช้เท้ากระโดดใส่ทำลายทิ้ง เพื่อต้องการนำรถแห่เข้าไปเวียนรอบโบสถ์ โดยอ้างว่าหลวงพ่ออนุญาตให้ดำเนินการ ซึ่งก่อนหน้าหลายปีเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ชาวบ้านไม่พอใจ จนทำให้มีคำสั่งห้ามจากต้นสังกัดมิให้นำรถแห่เข้าภายในโบสถ์ แต่ก็ไม่มีใครฟัง  ซ้ำยังอ้างว่าหลวงพ่อสั่งดำเนินการอีก ในเรื่องนี้จึงอย่ากให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ให้ดำเนินการในทางกฎหมายเพื่อมิให้เป็นเยี่ยง เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่าวน้อยรวมทั้งครอบครัวผู้บริจาคปัจจัยสร้างซุ้มประตูถวายไว้ให้เป็นศาสนสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา ต่างไม่สบายใจและอยากให้ผู้กระทำการณ์ดังกล่าว เข้าขอขมาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่าวน้อยมาหลายสิบปี อาจมองเป็นเรื่องเล็กแต่สำหลับชาวบ้านแล้วเป็นความรู้สึกที่มีคุณค่าทางจิตใจเป็นยอย่างมาก นัครินทร์/รายงานข่าว

ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริษัทยูนิคอร์ด จำกัด(มหาชน) สาขา ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) นำโดยนาย อมรพันธ์ อร่ามวัฒนานนท์ ในฐานะผู้บริหารบริษัทฯ จัดกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย “เดิน-วิ่งการกุศล ในโครงการ SUPER C CHEP RUN MINIMARATHON 3” ประจำปี 2567 โดยมีนายวรณัฎฐ์ หนูรอต รอง ผวจ.หวัดสมุทรสาคร มาเป็นประธานเปิดงานเพื่อหารายได้ในงานกิจกรรมเพื่อการกุศล ซึ่งผลปรากฏว่า สำหรับการหารายได้จากเงินร่วมบริจาคก็เพื่อช่วยสมทบทุนในการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ก่อนมอบให้กับทางโรงพยาบาลสมุทรสาคร รวมทั้งสิ้น 3 รายการ มีดังนี้ 1. เครื่องพยุงการทำงานของหัวใจ พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด, (2. ชุดเครื่องมือผ่าตัดปอดแบบส่องกล้อง จำนวน 1 ชุด และ 3. ชุดเครื่องมือผ่าตัดหัวใจแบบเปิด 1 ชุด ซึ่งรวมเป็นเงินมูลค่าทั้งสิ้น […]

คนร้ายควงปืนบุกยิงเจ้าของฟาร์มวัวดับคาบ้านพัก นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดนาน 2 วัน หลังอดีตภรรยาเอาข้าวมาให้กินพบเป็นศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งปมขัดแย้งชาวบ้านเหตุคนตายปล่อยวัวเข้ากินพืชสวนในพื้นที่จนมีปากเสียงและผู้เสียหายหลายรายทนไม่ไหวขึ้นโรงพักแจ้งความมาแล้ว เมื่อวันที่ 29 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ชินวงศ์  อินทร์ทอง  สว.(สอบสวน)สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุพบคนถูกยิงนอนจมกองเลือดเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 102 หมู่ 12 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร จึงรายงานให้พ.ต.อ.วิษณุ  สุระวดี  ผกก.สภ.สวี รับทราบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ถิรเดช  แข็งแรง รอง ผกก.สส.สภ.สวี  พ.ต.ท.ชัยณรงค์  ราชรักษ์  สว.สส.สภ.สวี  พ.ต.ต.เจียรศักดิ์  ยินดี  สวป.สภ.สวี  ร.ต.อ.มานิตย์  มณฑิราช  ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชุมพร  และแพทย์เวรโรงพยาบาลสวี หน่วยกู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตสวี เร่งตรวจสอบ บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวใกล้ถนนคอนกรีตสายลูกเสือพัฒนา บริเวณนอกบ้านเป็นคอกเลี้ยงวัวขนาดใหญ่ภายในบ้านใกล้โต๊ะนั่งหินอ่อน พบศพนายนิยม  สัญฐาน  อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้าจมกองเลือดแห้งกรัง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวลายสก็อต  […]

วันที่ 26 ต.ค. 2567  เวลา 00.40 น. หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาฯรับแจ้งอุบัติเหตุมีผู้lสียชีวิตทางเข้าวัดป่าสามกษัตริย์ก่อนถึงตลาดบ้านบ่อน้ำ(หนองสำโรง) เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯตรวจสอบพบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็กสีขาว ชนกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ110สีขาว-ดำ พบผู้lสียชีวิตชาย 1 ราย อายุประมาณ 25-30 ปี  เจ้าหน้าที่ร้อยเวรและแพทย์เวรชันสูตรศwที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำศwผู้lสียชีวิตเก็บรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานี ภาพข่าว : มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน สวาท เครือพิมาย ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์  มติรัฐ ประจำจังหวัดอุดรธานี รายงาน 0612301227

ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อประมาณเวลา 05.30 น.ของวันที่ 25 ต.ค. 2567 ที่หมู่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ ร.ต.อ.สุรพล วิชิต รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โกดัง บริษัทเอ็กซ์เจพีจำกัด (สำนักงานใหญ่) เลขที่ 84/22  หมู่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จึงรุดไปตรวจสอบร่วมกับ นายชาตรี โพธิ์อบ นายกเทศมนตรีบางปลา ต.บ้านเกาะ โดยมี ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร รถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบางปลา, เทศบาลตำบลนาดี, อบต.บ้านเกาะ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในละแวกใกล้เคียง มาร่วมกันฉีดน้ำดังไฟ ประมาณ10 คัน    ทั้งนี้โดยในที่เกิดเหตุพบว่า ไฟกำลังลุกไหม้ในโกดังรวม 4 ล๊อค ในเนื้อที่รวมประมาณ 100 ตารางวา ขณะที่เปลวเพลิงกำลังลุกโหมอย่างรุนแรง ต่อมาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด […]

สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเครือข่ายภาครัฐ เอกชน จัดงานเทศกาล แสง สี สิงห์ ประจำปี อย่างยิ่งใหญ่ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเครือข่ายภาครัฐ เอกชน จัดงานเทศกาล แสง สี สิงห์ ประจำปี​ 2567​ ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม 2567​ ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567​ ณ บริเวณศาลากลางหลังเดิม ร.ศ.๑๓๐ สิงห์บุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรองของจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งภายในงานประกอบด้วย การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง การประดับไฟนีออนไลท์อาร์ท ชมมิวเซียมสิงห์บุรียามค่ำคืน ชมภาพยนต์กลางแปลง กิจกรรมรถรางชมเมือง การแสดงสินค้าโอท็อปจากในจังหวัดสิงห์บุรี และจากจังหวัดต่างๆ มากมาย ตลอด 10 วัน 10 คืน และในเวลา 18.00 น. มีพิธีเปิดงาน ซึ่งในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายพีระพันธุ์ […]

25 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านของนางสาวหมีเซียะ บุญมี อายุ 39 ปี จับภาพเหตุการณ์ขณะเพื่อนบ้านหัวร้อนที่มีบ้านติดกัน ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้ารวม11 นัด หวังขู่ข้างบ้านให้กลัว หลังไม่พอใจที่สั่งให้มาขยับรถยนต์ที่จอดขวางทางในซอยเข้าบ้าน เนื่องจากเป็นซอยแคบเดินรถได้ทางเดียว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ต.ค.67บริเวณบ้านเลขที่ 411 ม.7 ซอยสมานมิตร ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ โดยเหตุการณ์จากคลิปจะเห็นว่าเพื่อนบ้านหัวร้อนรายนี้ขับรถยนต์เปิดไฟสว่างวิ่งมาจากหน้าปากซอยเข้ามาจอดด้านหน้าบ้านก่อนจะดับไฟหน้ารถลง  จากนั้นได้เปิดประตูเดินออกมาจากรถยนต์แล้วไม่พูดพร่ำทำเพลงชักอาวุธปืนคู่กายไม่ทราบขนาดออกมายิงขึ้นฟ้าไป 4 นัด เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนสุนัขข้างบ้านวิ่งแตกกระเจิง โดยพฤติกรรมจากคลิปของเพื่อนบ้านหัวร้อนรายนี้แสดงให้เห็นว่ายังไม่หนำใจ จะเห็นว่ามีการบันจุกระสุนอีกครั้งก่อนจะสาดขึ้นฟ้าอีก 7 นัด รวม 11 นัด เป็นเหตุให้ข้างบ้านและชาวบ้านในละแวกตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่เพื่อนบ้านหัวร้อนรายนี่จะเดินกลับเข้าบ้านอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังก่อเหตุเจ้าของคลิปข้างบ้านจึงนำคลิปขึ้นแจ้งความไว้ที่ สภ.สามร้อยยอด ก่อนจะนำคลิปให้สื่อเตือนภัย อาจมีชาวบ้านได้รับลูกหลงจากวิถีกระสุนที่อาจตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 411 ม.7 ซอยสมานมิตร ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด เข้าสอบถามถึงเหตุการณ์ตามคลิปกับนางสาว หมีเซียะ บุญมี (เจ้าของคลิป) เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เพื่อนบ้านหัวร้อนตามคลิปรายดังกล่าว มีศักดิ์เป็นเขยญาติแฟนตนเอง มีรั้วบ้านติดกัน มีปัญหาชอบจอดรถยนต์ขวางทางเข้าออกกลางซอยเข้าบ้านจอดทิ้งไว้ข้ามคืนอยู่ประจำ เนื่องจากเป็นซอยแคบใช้เดินรถทางเดียว เวลาตนเดินมาขอให้ขยับรถยนต์ออกหน่อย เนื่องจากตนไม่มีทางเดินรถเข้าออก เขาก็มีอาการไม่พอใจ มักจะโวยวายหาเรื่องครอบครัวตนบ่อยครั้ง จนบางครั้งตนต้องประกาศขายบ้านเพราะทนกับพฤติกรรมไม่ไหว นาวสาวหมีเซียะเล่าต่อพร้อมเปิดคลิปเหตุการณ์เมื่อ 6 เดือนก่อนขณะมีปากเสียกระทบกระทั่งก่อนจะมีการยิงขู่กลุ่มของเพื่อนๆลูกตนก่อนหน้าและว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดปากเสียงกระทบกระทั่งระหว่างกันนั้น ญาติๆเคยขอให้ขยับรถยนต์ที่จอดขวางทางออกให้หน่อยเนื่องจากต้องพาหลานที่ป่วยอยู่นำส่งโรงพยาบาล แต่เขากลับไม่พอใจจึงเกิดวิวาทะระหว่างกัน ก่อนตรงเข้ามาทำรายร่างกายญาติของตนภายในบ้านจากนั้นตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุ […]

ค่ำวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567 อุบัติเหตุสะเทือนใจครั้งนี้ เมื่อรถกระบะคันหนึ่ง เดินทางมาจากใต้อุโมงค์รังสิณา มุ่งหน้าเข้าอุดรฯ เมื่อถึงช่วงหน้าปั้มน้ำมัน แล้วเกิดพุ่งเข้าชนกลุ่มร้านอาหารข้างทาง ซึ่งเป็นร้านบะหมี่เกี๊ยว, ร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านขาหมู จำนวน 3 ร้าน โดยพุ่งเข้ากวาดชนลูกค้าที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ และชนกับเสาไฟ จนรถดับ  ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้lสียชีวิตเป็นทันที ชาย 1 ราย เป็นลูกค้าที่มานั่งทานอาหาร และมีผู้บาดเจ็บอีก 9 ราย หนึ่งในนั้นมีเด็กติดใต้ท้องรถกระบะที่ก่อเหตุด้วย สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 21 ปี ซึ่งอ้างว่าตนเองเกิดอาการวูบ แต่จนท.ตำรวจได้ตรวจค้นกระเป๋าพบอุปกรณ์การเสพสารเสพติด  และวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 19 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์  จึงควบคุมตัวก่อนนำไปตรวจคนที่บ้านพักและควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป   ภาพข่าว : ยอดชาย , อุดรอินโฟร์ , อุดรเดลี่ , อุดรในเมือง ,จูนนี่ สิรินทิฟฟานี่ สวาท เครือพิมาย ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์  มติรัฐ ประจำจังหวัดอุดรธานี […]