หนุ่มใหญ่วัย 56 ปีเจ้าของสนามชนไก่อำเภอสวีจ.ชุมพร หายตัวปริศนาพี่ชายเผยหลังทะเลาะกับภรรยาเรื่องเงินและเจ้าหนี้ตามทวงเงินภรรยาคนที่สองถึงหน้าบ้านเรื่องถึงโรงพัก สัญญาณจีพีเอสพบรถโผล่ภาคกลางและพื้นที่ฝั่งธนบุรีกรุงเทพมหานครเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามแต่ยังไร้วี่แวว พี่ชายวอนกลับมาหาครอบครัวทุกคนรอด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 ก.พ. 67 นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 10 ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวพร้อมกับนำหลักฐานภาพถ่ายและรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท 3424 ชุมพร ของนายขนบ สมหวัง หรือหมาส อายุ 56 ปี เป็นน้องชายอยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 5 ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร และเป็นเจ้าของสนามชนไก่ หายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามเกรงเกิดเหตุร้ายขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ โดยนายสำราญ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นพี่ชายของนายขนบ หรือหมาส น้องเป็นเจ้าของสนามไก่ชนมากว่า 5 ปี ชื่อ “สนามชนไก่สเตเดี้ยมสวี” ตั้งอยู่ที่ริมถนนสายเอเซีย 41 ตำบลสวี อำเภอสวี มีภรรยาสองคนคนแรกแต่งงานไม่ได้จดทะเบียนสมรสและไม่มีบุตรด้วยกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันประมาณ 8-9 ปีที่บ้านในพื้นที่ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี ส่วนคนที่สองอยู่ในพื้นที่อำเภอหลังสวน เท่าที่ตนทราบว่าทั้งคู่คบกันเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา
นายขนบ หายออกจากบ้านพักเมื่อวันที่ 1ก.พ.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ โดยตนได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.นาสัก ไว้เมื่อวันที่ 2 ก.พ.หลังจากนั้นไปที่บริษัทรถอำเภอสวีเพื่อของข้อมูลในการติดตามรถของนายขนบขับหายไป พบว่าในวันเดียวกันเวลาประมาณบ่าย 2 โมง จีพีเอสจับว่ารถจอดอยู่ในลานจอดรถที่ฝั่งธนบุรีพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งนายสำราญจำได้ว่าเป็นรถของน้องชาย ต่อมานายสำราญให้ตำรวจสภ.สวีซึ่งอยู่ใกล้กับบริษัทรถให้ติดตามรถคันดังกล่าวโดยประสานไปตำรวจท้องที่แต่เมื่อไปถึงรถของนายขนบหายไปแล้ว หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยคาดว่าจีพีเอสน่าจะถูกถอดออก โทรศัพทืติดต่อไม่ได้ถูกปิดเครื่อง พี่ชายคนหาย เผยอีกว่า น้องชายกับตนไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเพราะนายขนบ น้องชายมักจะยุ่งอยู่กับธุรกิจสนามชนไก่และจะเดินทางไปเล่นไก่ตามสถานที่ต่างๆในพื้นที่จังหวัดชุมพรว่างก็ทำสวน ได้โทรศัพท์คุยกันล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว วิงวอนให้ตำรวจและนักข่าวช่วยติดตามให้ การหายตัวของน้องชายไม่เคยปรากฏมาก่อน ตนไม่เชื่อว่าน้องชายจะขับรถจากเขาค่ายชุมพรไปกรุงเทพฯคนเดียวอย่างน้อย 2 คนอีกทั้งการเคลื่อนตัวของรถไวกว่าปกติไม่ค่อยจอดที่ไหน นายสำราญ เผยอีกว่า มาทราบภายหลังจากปากภรรยาคนแรกที่อยู่ด้วยกันว่ามีปัญหาครอบครัวกันเรื่องเงิน เจอกันก็ขอเงิน พอไม่ให้ก็โมโหโกรธ ล่าสุดก่อนหายตัวไปขอเงินภรรยา 1 แสนบาทแต่ภรรยาไม่ให้นายขนบก็โกรธ และบอกภรรยาว่า “ถ้างั้นมึงไปจัดการเอาเองนะที่บ่อนไก่กูไม่ทำแล้ว” ซึ่งมีปากเสียงลักษณะนี้บ่อยแล้วจะหายไปบ้านภรรยาอีกคนที่อำเภอหลังสวน แต่ยังติดต่อได้ตลอดไม่เคยหายไปแบบนี้ และก่อนน้องชายหายไปขณะนั้นไปอยู่บ้านภรรยาอีกคนในอำเภอหลังสวนก็มีเจ้าหนี้มาทวงเงินกับภรรยาของน้องชายที่ไปยืมเขามา และเกิดมีปากเสียงจนต้องขึ้นโรงพัก
พี่ชายคนหาย ให้ข้อมูลอีกเรื่องที่มีส่วนสำคัญคือภรรยาน้องชายบอกว่า ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของผัวหลายเดือนแล้วซึ่งตนเองฟังดูแล้วแปลกๆ ปัญหาหลักคือเรื่องเงิน มาหลังๆจากน้องชายมีปัญหาติดเรื่องผู้หญิงคือติดใจทั้ง 2 เรื่องผู้หญิงและเรื่องเงิน เคยเตือนน้องชายเรื่องผู้หญิงคนนี้อย่าให้ไปยุ่ง ถ้าบุญน้องเรามีจริงรอดมาได้มีชีวิตอยู่” ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าน้องชายฟังอยู่อยากจะพูดอะไรบ้าง ทำให้นายสำราญพี่ชายคนหายถึงกับสะอื้นน้ำตาคลอพูดอะไรไม่ออก บอกเพียงว่าทุกคนเป็นห่วงอยากให้กลับมา หลังจากนั้นนายสำราญให้ดูภาพวงจรปิดกล้องตำรวจทางหลวงจับภาพรถของนายขนบได้ในพื้นที่ ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมืองสมุทรสาคร วันที่ 2 ก.พ.ช่วงเวลาประมาณเที่ยงเศษ
เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร 098-9515199