เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายสมพร บุญคงมา อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร ว่าได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานปาล์มปล่อยน้ำเสียทิ้งลงลำห้วยสาธารณะทำให้ปลาที่ปล่อยเลี้ยงไว้เพื่อเป็นแหล่งอาหารชุมชนลอยตายทั้งหมด อีกทั้งโรงงานยังปล่อยกลิ่นเหม็นรบกวนทางเดินหายใจ อยากให้มาตรวจสอบ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบผู้ร้องเรียนพบว่าบ้านพักของนายสมพร ผู้ร้อง ด้านหน้าปลูกติดถนนคอนกรีตสายม่วงเจาะ ส่วนด้านข้างบ้านฝั่งทิศตะวันออกมีพื้นที่ติดกับโรงงานปาล์มโดยมีรั้วลวดหนามกั้นแบ่งเขตแดนไว้ ด้านหลังบ้านเป็นที่ว่างโล่งเดิมเป็นสวนปาล์มน้ำมัน ท้ายสวนติดลำห้วยสาธารณะชื่อ “ห้วยหอย” ความยาวประมาณ 200 เมตร โดยลำห้วยไปจดกับถนนลาดยางสายยุทธศาสตร์ ซึ่งลำห้วยดังกล่าวมีสภาพน้ำดำปี๋มีปลาลอยตายให้เห็นอยู่บางส่วน นายสมพรฯ กล่าวว่า ตนมีพื้นที่สวนและบ้านพักอยู่ติดกับโรงงานปาล์มได้รับความเดือดร้อนมาตลอดโดยเฉพาะกลิ่นเหม็นจากโรงไฟฟ้าของโรงงานปาล์ม ไม่รู้ว่าบริหารจัดการกันอย่างไร รวมถึงฝุ่นตะกอน แต่ได้พุดคุยกันหลายครั้ง เพื่อให้แก้ไขกระทั่งฝุ่นตะกอนหายไป แต่กลิ่นยังอยู่
จนกระทั่งเมื่อ 11 มี.ค. 67 พบว่าโรงงานปล่อยน้ำเสียครั้งแรกลงในลำห้วยสาธารณะ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ทำการขุดลอกลำห้วยให้กว้างขึ้น เพื่อกักเก็บน้ำให้ชาวชุมชนได้ใช้น้ำในการเกษตร พร้อมทั้งได้ปล่อยปลากดเหลืองไว้เป็นแหล่งอาหารใครก็สามารถจับกินได้ ทำไว้เพื่อมีประโยชน์ร่วมกัน หลังมีน้ำเสียทำให้กุ้ง หอย ปู ปลาตายหมด และในเวลาเดียวกันได้มีพนักงานโรงงานจำนวน 4-5 คนได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบจุดที่เป็นปัญหาเช่นกันนำท่อสายน้ำมาด้วย โดยอ้างว่าน้ำดำที่เห็นนั้นแท้จริงเป็นน้ำที่ผ่านการหมักเป็นปุ๋ยไว้ให้ชาวบ้านรดต้นทุเรียน แต่บังเอิญว่าท่อที่ต่อออกไปนั้นถูกรถตัดหญ้าตัดขาดทำให้น้ำไหลลงลำห้วย แต่หลังจากทราบเรื่องก็ได้ลงมาแก้ไขทันทีโดยนำเครื่องดูดน้ำมาดูดน้ำออกจากลำห้วยโดยใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะเอารถบรรทุกนำดีมาใช่ในลำห้วยแทนน้ำดำต่อไปซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหา
เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร 098-9515199