พ.ต.อ. พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันและปราบปราม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ที่ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี ซึ่งเป็นพื้นที่เขตรอยต่อกับพื้นที่อำเภอแว้ง ที่ติดต่อกับพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ในการสุ่มตั้งจุดตรวจจุดสกัดในเส้นทาง ที่มีการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าหนีภาษี บนถนนในเขตพื้นที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี
จนกระทั้งพบเห็นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไตรตัน สีขาว หมายเลขทะเบียน กน-5921 ตรัง มีลักษณะต้องสงสัยและมีบุคคลคล้ายคนต่างด้าว นั่งโดยสารอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ พบว่ามีนายอาสือมิง อาแวหะมะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/7 หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ
จ.นราธิวาส แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ และพบว่าผู้โดยสาร 6 คน ภายในรถมีลักษณะคล้ายบุคคลต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารประจำตัวคนต่างด้าว โดยทั้ง 6 คน ได้แสดงหนังสือเดินทางประเทศเมียนมาร์ และได้ตรวจสอบดูหน้าข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคน พบมีลักษณะผิดปกติ จึงได้เชิญตัวบุคลต่างด้าวทั้งหมด พร้อมนายอาศือมิงไปยังที่ทำการ ตม.จว.นราธิวาส เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้าในราชอาราจักรของบุคคลต่างด้าวทั้ง 6 คน แต่อย่างใด อีกทั้งภายในหนังสือเดินทางของคนต่างด้าวทั้ง 6 คน มีข้อมูลรายละเอียดรอยตราประทับ Visa ประเภท NON-LA จึงได้ตรวจสอบเลขที่รับเรื่องที่ปรากฎอยู่ภายในหนังสือเดินทาง ในระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีข้อมูลการขอวีซ่าการขออยู่ต่อประเภท NON-LA ของคนต่างด้าวทั้ง 6 คนแต่ประการใด ประกอบกับจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ด้วยไฟฉาย (black light) และแว่นขยาย ผลปรากฏว่า หนังสือเดินทางทั้งหมดหน้าข้อมูลบุคคล (หน้าDATA) ภาพพื้นหลังสะท้อนแสงสีฟ้า และไม่ปรากฎจุดเม็ดสีของหนังสือเดินทางผิดมาตรฐานของหนังสือเดินทางตามหลักสากล จึงได้ทำการซักถามสอบถามผ่านล่ามแปลกับบุคลต่างด้าวทั้ง 6 คน ให้การรับสารภาพตรงกันว่าพวกตนได้ลักลอบหลบหนีข้ามชายแดนช่องทางธรรมชาติประเทศไทย-เมียนมาร์ ที่เมืองพระยาตองซู และพักอาศัยที่บ้านพักของนายหน้าชาวเมียนมาร์
จนกระทั้งก่อนเดินทาง 2 วัน ได้มีนายหน้าชาวเมียนมาร์มาถ่ายภาพใบหน้าของพวกตนและขอชื่อของพวกตนไป และหลังจากนั้นก็ได้นำหนังสือเดินทางที่ปรากฎหน้าของพวกคนพร้อมข้อมูลรายละเอียดในหนังสือเดินทาง หลังจากนั้นจึงได้พาพวกตนไปขึ้นรถไฟไม่ทราบว่าจุดใด เพื่อเดินทางมายังจังหวัดนราธิวาส เพื่อจะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนนายอาสือมิง ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับว่าจ้างจากนายหน้าชาวมาเลเซียที่อยู่ประเทศมาเลเซีย ให้ไปรับคนต่างด้าวชาวเมียนมาร์ จำนวน 6 คน ที่สถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อพาไปส่งที่ ตลาดบูเก๊ะตา ต.บูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยได้รับค่าจ้างคนละ 100 ริงกิต คิดเป็นเงินไทยประมาณ 750 บาท ซึ่งจะได้หลังจากที่ทำงานเสร็จประมาณ 1-2 วัน ซึ่งตนได้ทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุม นำส่ง พงส.สภ.สุไหงปาดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าว/ปรียา/นราธิวาส