23 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองประจวบฯเข้าทำการจับกุมนายจิรายุทธ หรือโจ้ อายุ 34 ปี เป็นชาว อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ขณะกำลังเดินอยู่บริเวณริมถนนสุขสมบูรณ์ในพื้นที่ อ.เมืองประจวบฯ หลังจากมีเจ้าของร้านค้าสะดวกซื้อหลายรายเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองประจวบฯ ถูกมิจฉาชีพนำธนบัตรปลอม 1,000 บาท นำมาซื้อของที่ร้านแล้วเชิดเงินทอนหายจ้อย
จากนั้น พ.ต.อ.ไพรทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.ศักดา จำปาทอง รอง.ผกก.สส.สภ.เมืองประจวบฯ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวบดำเนินการเก็บรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อของผู้เสียหายหลายรายที่ชี้รูปภรรณสัณฐานผู้ต้องสงสัยจนนำไปสู่การออกหมายจับนายจิรายุทธ หรือโจ้ ก่อนจะนำตัวไปห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย ซึ่งทราบว่านายโจ้อาศัยอยู่
หลังเข้าดำเนินการตรวจค้น พบธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 145 ใบ ซุกไว้ในถุงพลาสติกสีขาววางอยู่บนชั้น พร้อมยาบ้าอีกจำนวน 26 เม็ด อยู่ในตะกร้าหลังตู้เย็น จากนั้นจึงควบคุมตัวนายจิรายุทธ หรือโจ้ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
จากการสอบถามเบื่องต้นทราบว่า นายจิรายุทธ สั่งธนบัตรปลอมใบระ1,000 บาทมาจากเว็บรายหนึ่งในเฟสบุ๊คในราคา 3,000 บาท ทั้งหมด 145 ใบ หากตีเป็นจำนวนเงิน 145,000 บาท จากนั้นจึงนำธนบัตรปลอม ทยอยออกจับจ่ายใช้สอยตามร้านค้าทั่วไปโดนจะเน้นใช้จ่ายในยามค่ำคืนเนื่องจากจะสังเกตุได้ยาก โดยนายจิรายุทธบอกว่า ธนบัตรปลอมมีเกตุราคาที่ต่างกัน หากต้องการคุณภาพดีก็มีราคาที่สูงขึ้น
จากนั้นจึงดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับนายจิรายุทธในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษ, และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราปลอม ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 244 ประกอบ มาตรา 240 ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านคุณโจ เข้าของร้านค้าสะดวกซื้อในซอยถนนสุขใจเล่าวินาทีโดนมิจฉาชีพเชิดเงินทอนให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะนั้นตนอยู่ภายในร้านเพียงคนเดียว ช่วงประมาณสามทุ่มเศษ มีลูกค้ารายหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซค์ไม่ทราบทะเบียนวิ่งเข้ามาจอดหน้าร้านแล้วตะโกนบอกตนขอซื้อบุหรี่หนึ่งซองพร้อมไฟแช๊ก แล้วบอกตนว่าเงินทอนแบงค์พันนะครับ ตนจึงหยิบบุหรี่พร้อมเงินทอนเดินมาให้ที่รถ จากนั้นลูกค้าคนดังกล่าวรับเงินทอนพร้อมบุหรี่ จังหวะที่ตนรับแบงค์พันมาก็ไม่สงสัยอะไรแต่หยิบขึ้นส่องกับแสงทันทีก็รู้ว่าเป็นแบงค์ปลอม แต่มิจฉาชีพได้ซิ่งมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปเสียแล้ว พอตั้งสติได้จึงวิ่งไปเอากุญแจรถตนเพื่อจะตามไปแต่ไม่ทันแล้ว รุ่งเช้าตนจึงเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองประจวบฯ พร้อมนำหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิดมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อ และอยากเตือนภัยให้ผู้ประกอบการร้านค้าทุกคนต้องระวังให้มากเนื่องจากแบงค์พันปลอมรุ่นใหม่ดูยากมากหากไม่สังเกตุอาจพาดท่ามิจฉาชีพได้
นัครินทร์/รายงานข่าว
