12 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเหตุการณ์วัยรุ่นโจ๋ชาวพม่านับ10 ”เหิมเกริม” ตั้งแก๊งตบหมวกกันน็อคไล่ควบอริไทยพื้นที่อ.บางสะพาน จนเป็นกระแสข่าวไปเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างนายจ้างบางรายที่ให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมา(พม่า) ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการให้ที่อาศัยพักพิง หวังเพียงแค่แรกกับการจ่ายค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่ารัฐกำหนด และหากหน่วยงานเกี่ยวข้องไม่เข้มงวดกวดขันตั้งจุดตรวจตรา เฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อยกันอย่างจริงจัง ก็อาจเกิดปัญหาตามมาอีกเช่นเคย เนื่องจากแก๊งวัยรุ่นโจ๋กลุ่มดังกล่าวมีเครือข่ายผ่านโซเชี่ยนอยู่หลายที่ ซึ่งหลังก่อเหตุก็มักจะเข้าไป ”แฮชแท็ก” ในโซเชี่ยน ท้าทายอำนาจรัฐ ข่มขู่ชาวบ้านสร้างเนื้อหาทำนอง ”ฉันจะกลับมาทำซ้ำเหมือนเดิมบาง” จบชาวบ้านบางรายต้องนำหลังฐานเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพิ่มหลังเกิดเหตุการณ์ และเมื่อมีการกระทำผิดกฎหมายกลุ่มพวกนี้ก็จะหลบหนีข้ามฝั่งกลับประเทศตนเอง เนื่องจากหมู่บ้านห้วยตะเคียนหลายหมู่ มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีช่องทางธรรมชาติเข้าออกหลายจุด
จากเหตุการณ์ดังกล่าวล่าสุดวันที่ 12 ต.ค. 67 พล.ต.ต ชมชวิณ ปุระธนานนท์รรท.ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิโห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ศิริ ราชรักษา ผกก. สภ.ธงชัย, พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกำลังออกตรวจตราในพื้นที่หมู่ที่ ๑๒ ต.ชัยเกษม และพื้นที่ไกล้เคียง
ร่วมทั้งตั้งด่านตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเชิญชาวบ้านร่วมประชุมหมู่บ้านเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น และข้อความร่วมมือชาวบ้านหากพบเจอหรือต้องสงสัยว่าแรงงานชาวพม่าเข้ามาทำงานถูกต้องหรือไม่ ขอให้แจ้งผู้นำชุมชนแต่ระหมู่ จะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ รวมทั้งนายจ่างบางรายหากพบมีการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยการให้ที่พักพิงกับแรงงานไม่ถูกต้องอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ด้าน พ.ต.อ เอกราช หุ่นงาม ที่ปรึกษาสมาชิกวุฒิสภา จ.ประจวบฯกล่าวว่า ล่าสุดได้แนะนำให้ผู้ใหญ่บ้านนำลูกบ้านที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นโจ๋ชาวเมียนมาเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ธงชัย เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะติดตามจนกว่าคดีจะจบ เนื่องจากตนได้รับมอบหมายจากท่าน สว.ให้ติดตามความคืบหน้า ไม่ใช่แค่ตั้งด่านตรวจสอบช่องทางเข้าออกเพียงเท่านั้น เพราะในพื้นที่ห่างไกลมีทั้งช่องทางธรรมชาติอีกมากมาย ที่ลักลอบเข้าออกได้โดยเจ้าหน้าที่อาจไม่ทราบ จึงต้องเก็บข้อมูลในพื้นที่ให้ครอบคลุมว่าเส้นทางการหลบหนีเข้ามาอยู่จุดไหนบ้าง พ.ต.อ.เอกราชกล่าว
นัครินทร์/รายงานข่าว