สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 65 กองบรรณาธิการ นสพ.มติรัฐ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เรื่องถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกรื้อถอนรั้วแนวเขตที่ดินทำกินเดิม และปักรั้วลวดหนามใหม่ล้ำเข้ามาในเขตที่ทำกินของตน ซึ่งได้ร้องเรียนไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้รับคำตอบให้ไปฟ้องศาลเอาเอง เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถให้ความเป็นธรรมได้ จึงเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน นสพ.มติรัฐ
กองบรรณาธิการได้ส่งฝ่ายกฎหมายลงพื้นที่ และเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านคา จ.ราชบุรี จึงได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ และนัดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท ในวันที่ 9 มิถุนายน 65 ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
ต่อมาในวันที่ 9 มิถุนายน 65 ทีมฝ่ายกฎหมาย นสพ.มติรัฐ ได้ลงพื้นที่พาชาวบ้าน เข้าพื้นที่พิพาทเพื่อหาข้อยุติเรื่องราวร้องเรียนปรากฏว่า คู่กรณีไม่ได้มาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว พร้อมท้าให้ชาวบ้านไปฟ้องร้องเอาเอง ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่ลงมาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ ก็ไม่ยอมเซ็นรับทราบการลงตรวจพื้นที่ในวันเดียวกันนี้ ชาวบ้านกลัวเรื่องเงียบหายและตนไม่สามารถเข้าพื้นที่ ที่เคยทำกินตลอดมาได้ จึงร้องขอความเป็นธรรมมายังสื่อมวลชน
กองบรรณาธิการ นสพ.มติรัฐ จึงสั่งการให้ตั้งคณะทำงานผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดราชบุรี พร้อมทีมทนายความ เฝ้าระวังและติดตามเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ให้ถึงที่สุดใครที่มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกันฮุบที่ดินทำกินของชาวบ้าน พึ่งระวังเอาไว้ให้ดี
นรสิงห์ พันตา
