เมื่อวันที่ 05 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมห้อง 201 ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว.สมุทรสาคร (ประธานในที่ประชุม) พร้อมด้วย นายนิคม มากรุ่งแจ้ง สว.สมุทรสาคร ,นายชวพล วัฒนพรมงคล สว.สมุทรสาคร และ นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ของจังหวัดสมุทรสาคร และผู้แทนจากองค์กรภาคเอกชน เช่น องค์กรพิทักษ์สิทธิ์แรงงานข้ามชาติ (พราว) ,เต้ อาชีวะพร้อมกลุ่มไทยไม่ทน เข้าร่วมหารือแนวทางการบริหารจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาสร้างอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงแนวทางการจัดการศึกษาให้กับบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อวางแนวทางสู่การพัฒนาการศึกษาให้อยู่ในระบบพร้อมตรวจสอบได้
ทั้งนี้ในเรื่องของหารือแนวทางการจัดการกับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาก่ออิทธิพลในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะทำงานของ สว.ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลในเชิงลึกมาสักระยะหนึ่งแล้วนั้น พร้อมที่จะรวบรวมนำส่งหน่วยงานความมั่นคงเพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามเพื่อดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลข้ามชาติ รวมถึงจับดำเนินคดีตามกฎหมายไทยให้ถึงที่สุด
โดยปัจจุบันพบว่า มีแรงงานข้ามชาติในจังหวัดสมุทรสาครที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องมีอยู่ประมาณ 292,577 คน มีบุตรหลานแรงงานข้ามชาติอยู่ในช่วงวัยที่ต้องได้รับการศึกษาไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ซึ่งมีองค์กรหรือมูลนิธิฯ บางแห่งเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ จากเด็กกลุ่มนี้ ด้วยการเปิดโรงเรียนสอนเด็กข้ามชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานด้านการศึกษาและป้องกันมิจฉาชีพเข้ามาหาประโยชน์กับบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ จำเป็นต้องจัดระบบให้การเรียนการสอนเป็นไปภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายไทย ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลไทย พร้อมเร่งจัดระเบียบสถานศึกษาของรัฐที่มีบุตรหลานของแรงงานข้ามชาติเข้าเรียน แต่ยังไม่ถูกระเบียบพร้อมกำชับต้องทำให้ถูกต้อง ในส่วนสถานศึกษาที่เป็นขององค์กรเอกชนจัดตั้งขึ้นนั้น ก็จะต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งข้อหารือดังกล่าวทางหน่วยงานด้านการศึกษาจะนำไปปฏิบัติ พร้อมตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป หากพบการกระทำความผิดจะต้องถูกสั่งปิดพร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ในด้านต่างด้าวผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จัวหวัดสมุทรสาครนั้น นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร แจ้งในที่ประชุมว่าจะดำเนินการสั่งการและบังคบใช้กฎหมายกับกลุ่มคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด ด้วยตนเอง
ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน