เป็นเรื่องปกติที่ผู้มีตำแหน่งในสภาทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องรับตำแหน่ง เป็นคณะกรรมาธิการในสภาที่ตนเองสังกัด ซึ่งก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ด้วยหน้าที่บางอย่างของคณะกรรมาธิการก็อาจจะต้องไปดูงานในต่างประเทศ เพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีมาพัฒนาแผนงานในประเทศเรา เฉกเช่นที่หน่วยงานราชการและองค์กรภาคเอกชนทำกัน หากแต่ภาพที่ออกมาดูแล้วน่าจะเป็นการไปเที่ยวเสียมากกว่า!!!
งบดูงานต่างประเทศของคณะกรรมาธิการแต่ละปี หลายสิบล้านบาทต่อคณะ แต่ประโยชน์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นรูปธรรมเสียเอาเลย ผิดกับหน่วยงานราชการยังพอเห็น นำความรู้กลับมาพัฒนาเป็นแผนงาน นโยบาย และโครงการต่างๆ ในภาครัฐ แม้แต่ก่อเกิดเป็นหน่วยงานใหม่เพื่อรองรับภารกิจเพื่อประชาชน แต่นักการเมืองไปดูงานแล้วได้อะไร? อยู่ในตำแหน่งเพียง 4 ปี ไปดูงานก็เห็นไปจิบไวน์ ช้อปซื้อสินค้า ของแบรนด์เนม บางคนกล้าไปดูงานแต่ไม่กล้าบอกประชาชนในพื้นที่ว่าไปดูงานต่างประเทศ จะกลัวอะไร! ถ้ามันเป็นสิ่งที่ดี หรือจะกลัวกลืนน้ำลายตัวเองเพราะนักการเมืองบางกลุ่มชอบตำหนิฝ่ายตรงข้ามว่าเอาภาษีประชาชน ไปดูงานต่างประเทศอย่างสิ้นเปลือง แต่ฝ่ายตนเองกลับไปดูงานต่างประเทศเองอย่างฉ่ำแบบไม่เห็นหัวประชาชน จะว่าไปการดูงานเพื่อเอามาเสนอกฎหมาย อาจพอฟังได้ แต่มันต้องสิ้นเปลืองภาษีประชาชนหลายสิบล้าน เพียงเพื่อประโยชน์แค่นี้ สู้ให้หน่วยงานรัฐนำเสนอโครงการแทน จะดีกว่าไหม?
และที่น่าจับตามองอีกอย่างหนึ่ง คือ การแต่งตั้งบุคคลในครอบครัวให้มีตำแหน่งที่รับเงินเดือนในคณะกรรมาธิการ ถ้าแค่แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยประจำตัวก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะตามประเพณีนิยมการให้คนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวช่วยเหลืองานส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ผิดกฎหมายอะไร แต่การมีตำแหน่งในคณะกรรมาธิการนั้น โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการสามัญ ที่มักมีสิทธิ์ไปดูงานต่างประเทศบ่อยๆ ลองนึกภาพเด็กมหาวิทยาลัยรับตำแหน่งเป็นกรรมาธิการหรือที่ปรึกษา รับเงินเดือนหรือผู้ชำนาญการประจำคณะกรรมาธิการ คิดว่าพวกเขาเหล่านี้มีความสามารถและประสบการณ์เหมาะสมจริง ๆ หรือ? แล้วยังเอาภาษีประชาชนไปดูงานทั้งครอบครัวอีก อย่างกับจัดทริปท่องเที่ยวครอบครัวสุขสันต์ก็ไม่ปาน นี่ยังไม่รวมถึงข่าวลือว่ามีการจ่ายเงินเพื่อแลกกับการเสนอแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการหรือที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ จนเป็นภาพที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือ ผู้ที่มีประวัติอาชญากรรมได้รับตำแหน่งท่ามกลางข้อกังขาของประชาชน ทั้งที่คณะกรรมาธิการ คือคณะทำงานที่อำนวยความเป็นธรรมให้ประชาชน กลับถูกใช้ฟอกตัวให้คนเหล่านี้
จึงขอส่งเสียงดังๆ ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยปรับปรุงแก้ไขเรื่องนี้เพื่อให้ภาษีประชาชนได้ถูกใช้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเกิดผลในการพัฒนาประเทศอย่างที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้เสียที
บทความโดย ว่าที่ร้อยตรีเพชรายุทธ ทรงชุ่ม