ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ทางอำเภอเมืองสมุทรสาครได้ดำเนินการออกจัดระเบียบสังคม ตามกระทรวงมหาดไทย ในและการ ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการปราบปรามและยาเสพติด นำโดย ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงษ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ภายใต้งานบูรณาการร่วมกันจัดระเบียบสังคม โดยมี สนง.จัดหางานจังหวัดฯ และสาธารณสุขอำเภอเมืองฯ เข้าร่วมบูรณาการ
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่ ม.4 ตำบลท่าทราย อ.เมืองฯ ปรากฏว่า พบการลักลอบการผลิตต้มและจำหน่ายน้ำพืชกระท่อมให้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มแรงงานต่างด้าวกำลังนั่งบริโภคน้ำพืชกระท่อมอยู่ภายในร้านแห่งหนึ่ง ที่มีสภาพการส่งเสียงดัง รบกวนประชาชนรอบบริเวณในยามวิกาล โดยมีการจอดรถจักรยานยนต์กีดขวางเส้นการจราจร ซึ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อื่นอยู่ภายในซอยฯ ต่อมาจากการเข้าตรวจสอบพบ จยย.จำนวนมากกำลังจอดอยู่พร้อมมีแรงงานต่างด้าวเป็นลูกค้านั่งบริโภคระท่อมกันภายในร้านค้า
“ขณะที่เจ้าของร้านค้าซึ่งเป็นคนไทย ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบต้มน้ำพืชกระท่อมขายโดยมีแรงงานต่างด้าวจำนวน 4 คน ทำงานอยู่ในร้านดังกล่าว จากนั้นจึงเรียกตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวแรงงาน ปรากฏว่า พบแรงงานชาวเมียนม่า จำนวน 3 คน ที่ขึ้นทะเบียนตามมติครม. (เมื่อ 24 กันยายน 2567) แต่ยังไม่ได้ชำระค่าธรรมเนียม ส่งผลทำให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต้องสิ้นสุด ขณะเดียวกันมีแรงงานต่างด้าวอีก 1 คน ตรวจสอบไม่พบมีเอกสารแสดงตน ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือในการล้างใบกระท่อม ก่อนบรรจุน้ำกระท่อมลงใส่ขวดน้ำพลาสติก ซึ่งมีทั้งผสมน้ำหวานและยาแก้ไอ เพื่อให้แก่แรงงานในฐานะเป็นลูกค้า ที่มาซื้อบริโภค
จากนั้นจึงได้ตรวจยึดขวดพลาสติกที่ใช้บรรจุกว่า 100 ขวด, น้ำอัดลมกว่า 50 ขวด และขวดบรรจุย้ำยาแก้ไอ (ไม่ทราบยี่ห้อ) ประมาณ 10 ขวด พร้อมทำการยึดใบกระท่อมสดกว่า 10 กิโลกรัม รวมทั้งหม้อที่ใช้ผลิต เตาแก๊ส และถังแก๊ส เพื่อส่งให้ จนท.ตำรวจ ไปดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาฐานเจ้าของร้านคนไทย ตามความผิดแห่งพระราชบัญญัติอาหารฯ และผู้มีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ กับเจ้าของร้าน ในส่วนของแรงงานต่างด้าวทั้ง 4 คน มีความผิดตาม พรบ.ฯความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองฯตามกฏหมายต่อไป”
มานพ ข่าวมหาชัย
