แนวพระราชดำริ ในหลวง ร.9 ทรงแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตมรสุม ซึ่งมักได้รับพายุฝนติดต่อกันหลายวันในฤดูฝน ทําให้เกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นพื้นที่กว้างใหญ่เป็นประจําเกือบทุกปี ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของชาติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนและความลำบากของพสกนิกร ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษนับตั้งแต่ทรงครองราชย์ พระองค์จึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ‘น้ำ’ อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาและจัดหาแหล่งน้ำ การเก็บกัก การระบาย การควบคุม การทำน้ำเสียให้เป็นน้ำดี ตลอดจนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

ในด้านทฤษฎีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตมรสุม มีฝนตก และปริมาณน้ำฝนสูง จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมอยู่ในหลายพื้นที่เกือบทุกภูมิภาค พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และทรงคำนึงถึงการเลือกใช้วิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพท้องที่ และสมรรถนะของกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ตลอดจนงบประมาณค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

– การก่อสร้างคันกั้นน้ำ
คันกั้นน้ำส่วนใหญ่สร้างด้วยดินถมบดอัดแน่น สูงพ้นระดับน้ำท่วมสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เป็นวิธีป้องกันน้ำท่วมที่นิยมทํากันมาช้านาน กรมชลประทานได้ก่อสร้างคันกันน้ำเพื่อสนองพระราชดำริ ได้แก่ คันกั้นน้ำของ โครงการมูโนะ และ โครงการปิเหล็ง จังหวัดนราธิวาส เป็นต้น

– การก่อสร้างทางผันน้ำ
เป็นการขุดคลองสายใหม่เชื่อมต่อกับลำน้ำที่มีปัญหาน้ำท่วม เพื่อผันน้ำทั้งหมดหรือบางส่วนที่ล้นตลิ่งให้ไหลไปตามทางผันน้ำที่ขุดขึ้นมาใหม่ ไปลงลำน้ำสายอื่น หรือระบายออกสู่ทะเล แล้วแต่กรณี

– การปรับปรุงสภาพลำน้ำ
เป็นวิธีการปรับปรุงและตกแต่งลำน้ำเพื่อเพิ่มความสามารถของลำน้ำ ในฤดูน้ำหลากให้น้ำไหลได้สะดวกขึ้น ด้วยความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม อันเป็นการลดปัญหาความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งอาจทําโดยการขุดลอกลำน้ำที่ตื้นเขินให้น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือชุดทางน้ำใหม่ลัดจากลําน้ำด้านเหนือที่คดโค้งไปบรรจบกับลําน้ำด้านใต้

– การก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ
เป็นการก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำปิดกั้นลำน้ำธรรมชาติระหว่างหุบเขา หรือเนินสูงที่บริเวณต้นน้ำของลําน้ำสายใหญ่ เพื่อกักเก็บน้ำไว้เหนือเขื่อน ทําให้เกิดแหล่งน้ำขนาดต่าง ๆ เรียกว่า “อ่างเก็บน้ำ” เขื่อนดังกล่าวมีหลายขนาด และสร้างด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อการชลประทาน ซึ่งมักได้ประโยชน์อื่น ๆ ตามมา เช่น การประมง การบรรเทาปัญหาน้ำท่วม การอุปโภคบริโภค โดยที่เขื่อนขนาดใหญ่เหล่านี้มักเป็นเขื่อนอเนกประสงค์

– การระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่ม
เป็นการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีน้ำขังอยู่นานหลายเดือนในแต่ละปีจนไม่สามารถใช้เพาะปลูกได้ การระบายน้ำออกจากที่ลุ่มนี้ จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง และสามารถใช้พื้นที่นั้นให้เกิดประโยชน์ในการเพาะปลูกได้ ทั้งนี้ จะต้องขุดคลองระบายน้ำออกไปทิ้งในลําน้ำหรือทะเล
ซึ่งทั้งหมดนี้ ทรงทำด้วยพระราชหฤทัยเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขปวงชนชาวไทย ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ ทำให้คนไทยอยู่เย็นเป็นสุข ด้วยทรงตระหนักว่า “น้ำคือชีวิต” และชีวิตของพสกนิกรชาวไทยต้องมีน้ำกินน้ำใช้อย่างยั่งยืน

Credit : เพจเฟสบุ๊ก ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ