วันที่ 3 มีนาคม 2568 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ลานรับเรื่องราวร้องทุกข์ ศาลาแก้ว อาคารรัฐสภา (สส.) นายเอกชัย เรืองรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา พร้อมด้วยนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และคณะ รับหนังสือจากตัวแทนกลุ่มแกนนําชาวนาภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง เพื่อขอให้วุฒิสภาผลักดันให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าวนาปรังตกต่ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาอย่างเร่งด่วน โดยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 3 เรื่อง ดังนี้ 1) ขอให้ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ทำนา โดยกำหนดราคาประกันข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน ความชื้น 15% และกำหนดปริมาณรับประกันราคาไม่เกิน 50 ตันต่อราย 2) การเยียวยาเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่รับน้ำ โดยจัดสรรเงินชดเชย จำนวน 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือนในแต่ละปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเป็นพื้นที่รับน้ำ และ 3) ขอให้ยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าวในพื้นที่ทำการเกษตร หรือขอให้ตั้งงบรับซื้อตอซังข้าวเพื่อช่วยลดภาระชาวนา โดยหวังว่าวุฒิสภาจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของชาวนาไทยต่อไป


ด้านนายเอกชัย เรืองรัตน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบสาเหตุหลักปัญหาราคาข้าวตกต่ำมาจาก
การที่อินเดียปรับโควต้าการส่งออกข้าวทำให้ราคาข้าวทั่วโลกลดลง และตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ได้ทราบข้อมูลนี้ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 แต่ยังไม่มีมาตรการรองรับส่งผลให้ชาวนาต้องเผชิญภาวะขาดทุนจากต้นทุนการผลิตที่สูง
ทั้งนี้ กมธ. จะรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวและจะผลักดันข้อเสนอการกำหนดราคารับซื้อข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน และการให้เงินสนับสนุนชาวนาในพื้นที่รับน้ำ 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน สำหรับประเด็นเรื่องการเผาตอซังข้าวต้องนำไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนกำหนดแนวทางช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่นายปริญญา วงศ์เชิดขวัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของวุฒิสภาได้มีการเสนอญัตติเพื่อให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยจะนำข้อเสนอดังกล่าวเสนอไปยังรัฐบาลและและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและนำกราบเรียนประธานวุฒิสภา เพื่อพิจารณาส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมย้ำว่าวุฒิสภาจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องชาวนาที่เป็นแรงกำลังของประเทศชาติ
Credit : Facebook Fanpage สว.โบ๊ต ปริญญา
พื้นที่โฆษณา

