วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.30 น. กลุ่มชาวบ้านเจริญทรัพย์ หมู่7 ตำบลทะเลทรัพย์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร นำโดย น.ส.ศันสนีย์ ศรีภิญโญ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 7 ตำบลทะเลทรัพย์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร พร้อมด้วย น.ส.พัชราภรณ์ ดำวิสัย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/5 ตำบลทะเลทรัพย์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร และชาวบ้านอีก 10 คน ได้นำ นายสัญญา สวัสขิง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/11 ตำบลทะเลทรัพย์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เป็นผู้สมัครเลือกผู้ใหญ่บ้าน หมู่7 แทนคนเก่าที่เกษียณอายุ 60 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายเธียรติชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผวจ.ชุมพร ห้องประชุมเกาะลังกาจิว ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร หลังจากที่ทางคณะกรรมการชุดรับสมัครเลือกผู้ใหญ่บ้านของทางอำเภอปะทิว ได้แจ้งว่าขาดคุณสมบัติเรื่องวุฒิการศึกษา โดยมีนายกำปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ ปลัดจังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร เข้าร่วม


โดย น.ส.ศันสนีย์ ศรีภิญโญ อายุ 29 ปี กล่าวว่า หลังจากที่ทางผู้ใหญ่บ้าน หมู่7 ได้เกษียณอายุราชการ ด้วยวัย 60 ปี เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา และต่อมาเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ทางปลัดอำเภอปะทิว ได้เรียกชาวบ้านเจริญทรัพย์ หมู่7 เข้าร่วมประชุม ในเวลา 09.30 น.โดยทางอำเภอได้ทำกระดาษเอกสาร ขนาด เอ 4 จำนวน 5 หน้า มาแจกให้กับชาวบ้านที่มาร่วมประชุม ซึ่งในเอกสารมีหัวข้อของวาระการประชุม โดยมีจำนวน 2 วาระหลัก โดยทั้ง 2 วาระเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกผู้ใหญ่บ้าน ลงวันที่ 24 เมษายน 2568 โดยประกาศให้บ้านเจริญทรัพย์ หมู่7 เป็นท้องที่ที่ทำการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน และจัดสถานที่ที่ทำการลงคะแนนเลือกผู้ใหญ่บ้าน
น.ส.ศันสนีย์ กล่าวต่อว่า ในเอกสารยังระบุว่า ราษฎรผู้ใดประสงค์จะสมัครรับการเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ให้ยื่นใบสมัครที่ ว่าการอำเภอปะทิว ด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่ 7-9 พฤษภาคม 2568 พร้อมหลักฐานและเอกสารต่างๆ ซึ่งรับรองความถูกต้อง และคุณสมบัติ ข้อที่ 14 ที่มีใจความระบุว่า ต้องมีพื้นความรู้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ หรือที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ เว้นแต่ในท้องที่ใดไม่อาจะเลือกผู้มีความรู้ดังกล่าวได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยอนุมัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาจประกาศในราชกิจจานุเบกษายกเว้นหรือผ่อนผันได้ น.ส.ศันสนีย์ กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งข้อ 14 นี้เป็นประเด็นร้อนที่พวกตนเองต้องนำ นายสัญญา สวัสขิง ซึ่งเป็นผู้สมัครเบอร์ 2 เดินทางมาขอความเป็นธรรมต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ก็ตรงมีการระบุคุณสมบัติเป็นวรรคย่อย 3 วรรค คือ 1.ผู้ที่เกิดก่อนปี 2521 (ภาคบังคับ ป.4) 2.ผู้ที่เกิดระหว่างปี 2521-2545 (ภาคบังคับ ป.6) และ 3.ผู้ที่เกิดปี 2545 ถึงปัจจุบัน (ภาคบังคับ ม.3) ซึ่งทางนายสัญญา สวัสขิง ผู้สมัครเบอร์ 2 ซึ่งเกิดปี 2513 หรือเป็นผู้เกิดก่อนปี 2521 ได้ใช้วุฒิการศึกษา ป.4 ยื่นสมัครชิงผู้ใหญ่บ้านที่ว่าการอำเภอปะทิว ในวันที่ 7 พฤษภาคม 68 ซึ่งเป็นวันแรกของวันสมัคร ซึ่งหลังจากที่ยื่นเอกสารไป ทางเจ้าหน้าที่ประจำโต๊ะรับสมัคร ให้ไปเอาวุฒิการศึกษาตัวจริงมาแสดง จึงทำให้เสียเวลา เลยได้เลขสมัครเบอร์ 2 ไป
ต่อมาวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเปิดรับสมัคร เวลาประมาณ 15.30 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ของอำเภอปะทิว ได้โทรศัพท์แจ้งมาว่า ขาดคุณสมบัติ ต้องใช้วุฒิการศึกษา ป.6 อย่างต่ำ ซึ่งตนเองและชาวบ้านส่วนใหญ่ ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนให้นายสัญญา ได้สมัครผู้ใหญ่บ้านเพื่อเป็นตัวแทนชาวบ้านในการเข้าไปทำงานให้ชุมชน เพราะทุกคนเห็นตรงกันว่า เป็นคนที่ดี ชอบช่วยเหลือสังคม เป็นที่ประจักษ์ จึงรู้สึกว่า การที่ เจ้าหน้าที่ได้กระทำเช่นนี้ ไม่มีความเป็นธรรม และไม่โปร่งใสในการเปิดเลือกผู้ใหญ่บ้าน เพราะคุณสมบัติ ที่ได้ยื่นสมัครไป ได้มีการตรวจเบื้องต้นอยู่แล้ว และตรงตามเงื่อนไขข้อบังคับทุกประการ แต่กลับมาชี้ว่าขาดคุณสมบัติแบบมีนัยยะ น.ส.ศันสนีย์ กล่าว น.ส.ศันสนีย์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ถ้าคุณสมบัติไม่ตรงแล้วทำไมเอาเอกสารระเบียบข้อบังคับมาแจกให้กับชาวบ้านได้รับรับอย่างทั่วถึงและเปิดเผย หากพวกชาวบ้านรู้ว่านายสัญญา ไม่สามารถสมัครได้ ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมจะลงแข่ง แม้กระทั่งตนเอง ซึ่งมีวุฒิการศึกษา ป.ตรี ยังยอมเปิดทางให้คนดีที่มีใจขันอาสาพัฒนาชุมชนได้เข้าไปทำงานตามความตั้งใจ แต่มาถูกสกัดให้ล้มโดยที่ยังไม่ได้แข่งขันเลย และพวกชาวบ้านไม่ได้ต้องการอะไรมาก หากอำเภอปะทิวบริสุทธิ์ใจ ก็ล้มกระดานเปิดรับสมัครกันใหม่ ถ้าคิดว่าผิดพลาดไปแล้ว พวกชาวบ้านยอมรับได้และทุกคนต้องการได้ใช้สิทธิในการเลือก ไม่ใช่หาเรื่องตัดสิทธิ์แล้วแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านเลย ถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แพ้ชนะต้องมาจากเสียงประชาชนเท่านั้น
ต่อมาหลังจากที่ร่วมประชุมจบ ทางด้าน น.ส.พัชราภรณ์ ดำวิสัย และ น.ส.นิภาวรรณ ทองสง่า ได้เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า หนังสือการบันทึกการประชุมมีเจ้าหน้าที่อำเภอไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน โดยในข้อ 14 มีพื้นฐานความรู้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ หรือที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับฯ ผู้ที่เกิดก่อนปี 2521 (ภาคบังคับ ป.4 ) ผู้ที่เกิดระหว่างปี 2521-2545 (ภาคบังคับ ป.6) ผู้ที่เกิดปี 2545 ถึงปัจจุบัน(ภาคบังคับ ม.3 ) เปิดรับสมัครวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2568 ตอนแรกทางอำเภอรับเอกสารสมัครและให้เอาวุฒิการศึกษามาแสดงด้วย หลังจากรับวุฒการศึกษาไปแล้วทางเจ้าหน้าที่อำเภอกลับมาบอกทางผู้สมัครในชั่วโมงสุดท้ายของวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายเวลาประมาณ 4 โมงเย็นว่าวุฒิการศึกษาอาจจะไม่ผ่าน เอกสารนั้นเป็นเพียงกระดาษใบหนึ่งเชื่อถือไม่ได้ พูดมาว่าเป็น “กฎหมายปิดปาก” ซึ่งทางชาวบ้านก็ไม่เข้าใจว่ากฎหมายปิดปากคืออะไร
หลังจากนั้นได้ประสานไปยังปลัดอำเภอเพื่อหารือแต่อย่างไรก็ตามถึงจะหาผู้สมัครที่มีความพร้อมอย่างไรก็ไปสมัครใหม่ไม่ทัน ซึ่งถ้าดูในเอกสารที่ทางอำเภอปะทิว นำมาแจกในวันประชุมหมู่บ้านนั้น นายสัญญาฯจบการศึกษา ป.4 มีคุณสมบัติตามข้อ 14 ผู้เกิดก่อน 2521 (ภาคบังคับ ป.4) แต่ทางอำเภอปะทิวกลับมาในวันสุดท้ายว่าต้องจบ ป.6 ชาวบ้านออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเรื่องหนังสือออกมาจากทางอำเภอกรณีนี้เกิดปัญหาขึ้น ข่าวว่าหลังจากนายสัญญาถูกตัดสิทธิ์เรื่องวุฒิการศึกษาฝ่ายคู่แข่งก็สามารถถูกแต่งตั้งขึ้นมาได้เลย
ถึงแม้ว่าทางอำเภอแจ้งว่าจะขยายเวลา 30 วัน ชาวบ้านมองว่าไม่มีผลอะไรในเมื่อไม่เปิดโอกาสรับสมัครเลือกใหม่เพียงรอการตรวจสอบ คือตอนนี้อยากให้อำเภอปะทิวออกมาชี้แจงรับผิดชอบว่าเอกสารมีความผิดพลาดยังไง ให้ชาวบ้านได้รับความเป็นธรรมบ้าง สำหรับนายสัญญา ผู้สมัครฯ เป็นที่รักของชาวบ้าน มีจิตอาสาช่วยเหลือ ทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด ขนาดผู้ที่มีคุณสมบัติจบ ป.โท ยังเปิดโอกาสให้นายสัญญาฯก่อน เนื่องจากเป็นผู้อาวุโสกว่าด้วย น.ส.พัชราภรณ์ ดำวิสัย และ น.ส.นิภาวรรณ ทองสง่า กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ ชาวบ้านคงจะไม่มีความเชื่อถือทางอำเภอปะทิวและคงจะไม่ให้ความร่วมมืออะไรแล้ว เอกสารอะไรที่มาแจกให้ก็คงจะเชื่อถืออะไรไม่ได้ ชาวบ้านเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งไม่ให้มีการแต่งตั้ง
ด้าน นายเธียรชัยฯ ผู้ว่าฯจ.ชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมคุณสมบัติผู้สมัครของคณะกรรมการตรวจสอบฯและทางอำเภอปะทิวได้ประสานขอขยายเวลาเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครทุกคน และให้ผู้ร้องทำหนังสือด้วยลายมือลงตรงที่ตนเองเพื่อขอความเป็นธรรมให้มีการตรวจสอบข้อมูลควบคู่กันไปหากผู้ร้องจะยื่นอุทธรณ์ต่อตนเองเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวและทำหนังสือในเรื่องเดียวกันร้องศาลปกครองตามครรลองตามกระบวนการต่อไป
เอกชนะ นวนละมัย ข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร 098-9515199