วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 จากกระแสผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทย หรือทัวร์ภายในประเทศ เรียกร้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวของชาวจีนในไทย ที่มีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวจีนลดลงไปเกือบ 50% ของปี 2562 ก่อนโควิด เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย



พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ได้เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม.ได้มีข้อห่วงใย และมีดำริให้ด่าน ตม.สนามบิน ซึ่งเป็นประตูด่านหน้าของประเทศ จัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวในไทยสำหรับชาวจีน
ซึ่งพบว่าช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลปิดเทอมของประเทศจีน เดือน ก.ค.-ก.ย. โดยถือเป็นโอกาสที่ชาวจีนจะนำลูกหลานออกท่องเที่ยวในช่วงปิดเทอม เนื่องจากในช่วงเปิดเทอมปกติ ชาวจีนจะไม่นิยมให้ลูกหลานลาเรียนเพื่อไปเที่ยว ไม่ว่าจะเที่ยวในประเทศจีน หรือต่างประเทศ เนื่องจากในจีนมีการแข่งขันในการเรียนสูง จึงใช้ช่วงปิดเทอมพาลูกหลานเที่ยวอย่างจริงจัง
พล.ต.ต.เชิงรณฯ กล่าวอีกว่า ตนเพิ่งเดินทางไปร่วมประชุมกับรองอธิบดีกรมการกงสุล สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับข้อมูลว่า แม้ว่าชาวจีนจะนิยมเที่ยวในประเทศจีนมากขึ้น เนื่องจากรายได้ทางเศรษฐกิจลดลงหลังโควิด แต่ประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศอันดับหนึ่ง รองจากมาเก๊า ฮ่องกง ที่นักท่องเที่ยวชาวจีน จะพาลูกหลานเดินทางมาเที่ยว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น ไม่สามารถเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของจีนในมณฑลต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะ ที่ท่องเที่ยวทางทะเลในภูเก็ต และพัทยา ทั้งนี้ ได้รับคำยืนยันว่าทางรัฐบาลจีนไม่มีนโยบายกีดกันคนจีนเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศแต่อย่างใด
สำหรับประเทศไทย พล.ต.ต.เชิงรณฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันชาวจีนมีสัดส่วนเดินทางมาไทยสูงสุดเป็นสัดส่วน 10% ของชาวต่างชาติทั้งหมด
ดังนั้น บก.ตม.2 ในฐานะประตูด่านหน้าของประเทศ จึงใช้โอกาสดังกล่าวทำกิจกรรม 暑假愉快通道 ” shǔ jià yú kuài tú jìng ” (ฉู่ เจี้ย หยู ไคว่ ชาแนล)” Happy Chinese Summer Channel” โดยจัดช่องทางพิเศษ ให้เด็กนักเรียนชาวจีนที่เดินทางมาพร้อมครอบครัว เข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าประเทศที่ด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่
โดยมีการจัดทำป้ายสแตนด์ เพื่อชี้จุดทางเข้า พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ ตม. คัดแยกกลุ่มครอบครัวนักเรียน เพื่อเข้าช่องทางที่จัดให้ เป็นการลดภาระการรอคอย โดยเฉพาะในช่วงที่มีเที่ยวบินหนาแน่น ซึ่งปกติใช้เวลาเข้าโถง ตม. จนถึงหน้าช่องตรวจไม่เกิน 40 นาที โดยจะลดเวลารอเพียงไม่เกิน 15 นาที คาดว่าจะรองรับการตรวจนักเรียนและผู้ปกครองรวมถึงครอบครัวได้ราววันละไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย จากสัดส่วนชาวจีนที่บินเข้าไทยราววันละ 20,000 คนโดยเฉลี่ย
อย่างไรก็ดี สำหรับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 12 ปี และผู้ปกครอง รวมถึงผู้สูงวัยและคนพิการ หญิงมีครรภ์ทุกสัญชาติ ทาง ตม. สนามบิน ได้จัดช่องทาง priority ไว้รองรับเป็นพิเศษ เพื่อลดเวลาการรอในโถงปกติไว้ด้วย พล.ต.ต.เชิงรณฯ กล่าว
เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ