สาวร้องสื่อถูกยืดที่ดินทำเป็นถนนสาธารณะเข้าหมู่บ้านด้วยกระดาษ A4 เพียงฉบับเดียว

วันที่ 6 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวเกื้อภัสสร น้ำทิทย์ พร้อมนายสมควร ชัยเนตร น้องชาย เจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งในซอยวัชรพลซอย 3 เข้าร้องทุกข์ขอความความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนพร้อมพาลงพื้นที่ชี้จุดที่อ้างว่าถูกยึดใช้เป็นทางสาธารณะเพื่อใช้เป็นทางเข้าออกหมู่บ้าน  โดยพบว่ามีลักษณะเป็นถนนทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง กว้างประมาณ 6 เมตร (2 ช่องทางเดินรถ) ระยะทางยาวประมาณ 60 เมตร บริเวณกลางถนนมีการพ่นสีแดงเอาไว้ซึ่งทางผู้ร้องอ้างว่าเดิมเป็นหมุดแนวเขตที่ดินของตนเองที่ถูกถอดหมุดอออกไปแล้ว

นางสาวเกื้อภัสสร น้ำทิทย์ ระบุว่า วันนี้ตนเองมาขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมในฐานะผู้ครอบครองโฉนดที่ดินอย่างถูกต้อง เดิมที่ดินแปลงนี้คุณพ่อได้ซื้อไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ 2531 จำนวน 1 ไร่ 3 งาน 55 ตารางวา ซึ่งเป็นทางตัน มีลำคลองกันอย่างชัดเจน ต่อมาปี 2533 ได้มีการจดทะเบียนก่อสร้างหมู่บ้าน และทำหนังสือสอบถามไปยังเขตเกี่ยวกับถนนว่าเป็นทางสาธารณะหรือไม่หลังจากนั้น 20 วัน มีเอกสารA4 จากเขตบางเขนแจ้งว่าเป็นถนนสาธารณะ แล้วก็มาทำหมู่บ้านเลย ซึ่งตามพรบ.หมู่บ้านจัดสรรค์หากเป็นที่ดินตาบอดจะไม่สามารถสร้างได้ ต่อมามีเอกสารA4 เพียงฉบับเดียวซึ่งออกโดยรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเขต(บางเขน) มาแสดงให้ตัวเอง ซึ่งมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์มาโดยตลอด

ปี 2534 หมู่บ้านเริ่มก่อสร้างสะพานและถนนคอนกรีตเข้าไปยังหมู่บ้านบนที่ดินที่คุณพ่อซื้อไว้เพื่อเป็นทางเข้าออกจนแล้วเสร็จในปี 2535 ทั้งนี้ปี 2536 คุณพ่อได้นำที่ดินแปลงนี้ไปจำนองกับธนาคารเป็นเวลา 12 ปี โดยแบ่งออกเป็น 3 แปลง ระหว่างนั้นหมู่บ้านนี้เริ่มจัดสรรโครงการให้แก่ประชาชน มีการไฟฟ้ามาปักเส้าไฟลงในที่ดินตนเอง ซึ่งมีการคัดค้านให้รื้อถอนสะพานข้ามคลองและถนนที่รุกล้ำเข้ามาในที่ตนมาโดยตลอด ปี 2546 คุณพ่อได้ไถ่ถอนที่ดินทั้งหมดออกมา และขายออกไปจำนวน 1 แปลงหรือไว้ 2 แปลง ซึ่งได้ทำการฟ้องร้องผู้ที่รุกล้ำที่ดิน ไปแล้วต่อมาคุณพ่อได้เสียชีวิตลง ตนเองจึงเดินทางกลับมาจากต่างประเทศและสืบทรัพย์จนทราบว่าคุณพ่อมีที่ดินตรงนี้อีกแห่งและมีมีการฟ้องร้องกันอยู่

นางสาวเกื้อภัสสร ระบุอีกว่า หลังจากที่ตนเองสืบทรัพย์จนทราบถึงที่ดินตรงนี้ มีการขอมารังวัด โดยตนเองเป็นคนลงลายมือชื่อขอรังวัด วันที่ 17 พฤกษาคม 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตนเองยังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินนี้ จากนั้น วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 มีหนังสือจากผู้อำนวยการสำนักงานเขต(สายไหม)อ้างว่าถนนนี้เป็นสาธารณะ จึงมีหนังสือคัดค้าน วันนี้จึงต้องออกมารักษาสิทธิ์ของตนเองและอยากให้ผู้ที่มีอำนาจช่วยตรวจสอบกรณีนี้ด้วย เพราะคนที่เดือดร้อนคือประชาชนที่ถือโฉนดครุฑแดง แต่ถูกเจ้าหน้าที่อ้างออกจนหมายยึดที่ดินไปเป็นสาธารณเอื้อประโยชน์เพียงหมู่บ้านเดียว

ยืนยันไม่เคยมีการอุทิศ หรือยกที่ดินในส่วนที่ทำถนนให้กับผู้ใด ไม่เคยลงนามหรือพูดด้วยวาจาว่าจะยกให้เป็นทางสาธารณะ หากเป็นแบบนั้นจริงแล้วทำไมตนเองยังไปขอใบแทนโฉนดที่มีครุฑแดงทั้ง 2 แปลงออกมาได้ จากนี้ไปหากมีการมาขอซื้อยืนยันว่าจะไม่ขาย และจะปิดเป็นประตูในการจะผ่านเข้าออกก็ต้องจ่ายเงินเท่านั้น ที่ต้องทำแบบนี้เพราะทำไม่ถูกต้อง ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ไม่ซื้อสัตย์ต่อคนที่มาซื้อบ้านคุณ

ด้านลูกบ้านคนหนึ่งออกมาเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ตนเองไม่เคยรู้มาก่อนว่าถนนแห่งนี้เป็นที่มีเจ้าของ จนมาทราบในวันที่มีการมารังวัดที่ดินและได้พูดคุยกับเจ้าของที่ได้เห็นเอกสาร ได้เห็นโฉนด และทราบเรื่องทั้งหมด จากนั้นได้สอบถามไปยังหมู่บ้านแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบหรือคำชี้แจงใดๆ ตอนนี้กังวนหากเจ้าของที่มาปิดทางเข้าออกจริงๆ ก็คงต้องเดินเข้า

 

cr.เสาร์แก้ว คำพิวงค์ ผู้สื่อข่าวภาคสนาม 087-719-9429

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ