วันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสายนูดิน มามุ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและอำนวยความเป็นธรรม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาความมั่นคง ศอ.บต. ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจชุมชนเข้มแข็ง ณ มัสยิดกำปงบารู บ้านใหม่ หมู่ 5 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้ร่วมกันขึ้นป้ายประกาศจุดยืนชัดเจนว่า “พวกเรารวมพลังไม่เอาพืชกระท่อม และไม่เอายาเสพติดทุกชนิด”
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ แผนปฏิบัติการ 120 วัน วาระพืชกระท่อม ตามนโยบายที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บูรณาการทำงานร่วมกัน โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการห้ามจำหน่ายพืชกระท่อมตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล) และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา รวมกว่า 688 ชุมชน
นายรุสดีย์ โดฮาร์ อีหม่ามมัสยิดกำปงบารู และคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส กล่าวย้ำว่า ศาสนาอิสลามห้ามการเสพสิ่งมึนเมาและสารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งรวมถึงพืชกระท่อมและยาเสพติดทุกชนิด พร้อมชี้ว่าการป้องกันเยาวชนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ต้องอาศัยทั้งหลักศาสนาและการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กัน
“อิสลามสอนให้เลือกรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สิ่งเสพติดเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะจะทำลายศรัทธาและนำไปสู่ความเสื่อมเสีย เราจึงต้องช่วยกันรณรงค์ ให้เยาวชนและประชาชนตระหนัก ไม่เพียงเพื่อครอบครัว แต่เพื่ออนาคตของชุมชนและสังคม” อีหม่ามกล่าว
การขับเคลื่อนครั้งนี้สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของชุมชนท้องถิ่นกับนโยบายภาครัฐ ภายใต้ “วาระ 120 วันพืชกระท่อม” ที่ตั้งเป้าลดปัญหาการใช้และการค้าพืชกระท่อมอย่างผิดวัตถุประสงค์ในพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมผลักดันให้ชุมชนเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน
ข่าว/กรียา/นราธิวาส
