นราธิวาส – เทศกาลว่าวนานาชาติ

อลังการงานสร้างเทศกาลว่าวนานาชาติ บอลลูนโชว์ตระการตาริมหาดอ่าวมะนาว ภายใต้ชื่องาน OXYGEN NARATHIWAT EP.1 KITE INTERNATIONAL  ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

วันที่ 14 เมษายน 2567 ที่หาดอ่าวมะนาว ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองจังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีเปิดงาน  OXYGEN NARATHIWAT EP.1 KITE INTERNATIONAL โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ จากจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนชาวมาเลเซียกว่า 2,000 คน เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเนืองแน่น

ด้านนายอัศวัน เมฆารัฐ กรรมการบริหารบริษัท วังเมฆา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในนามคณะกรรมการจัดงาน OXYGEN NARATHIWAT EP.1 KITE INTERNATIONAL กล่าวว่า OXYGEN NARATHIWAT เป็นโครงการที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจด้วยเสน่ห์และอัตลักษณ์ของชุมชนและอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว – เขาตันหยง ให้เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว โดยคอนเซ็ปต์ของงานมีทั้งตลาดอาร์ท ตลาดฟูด อาหารเด็ดทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด งานแสดงศิลปะและดนตรี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำ ทางบก โซนเวิร์คช้อปสาธิตการทำกิจกรรมต่างๆ โดยงานจัดขึ้นบริเวณ หาดอ่าวมะนาวและอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว – เขาตันหยง ซึ่งกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2567  โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรณรงค์การอนุรักษ์ธรรมชาติอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว เขาตันหยง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดนราธิวาส เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อกระจายรายได้ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส อาทิ ด้านการโรงแรม ด้านตลาดสด ด้านร้านค้าโชห่วย ด้านร้านน้ำแข็ง ด้านร้านอาหาร ด้านชุมชนในพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้ ด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างการรับรู้ด้านความเชื่อมั่นความปลอดภัย เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น สามารถพัฒนาศักยภาพทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเพื่อก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่พื้นที่ ชุมชนในจังหวัดนราธิวาส

โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมว่าวนานาชาติ บอลลูนโชว์ กิจกรรมทางบก กิจกรรมทางน้ำ เทศกาลอาหาร เทศกาลดนตรีจุดเช็คอินไม่น้อยไปกว่า 10 จุด เวิร์คช็อบ อาทิ การทำว่าวพื้นบ้าน การสาธิตการวาดภาพเหมือน การทำสร้อยคอ สร้อยข้อมือ รวมถึงการร่วมรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติ การรักษาความเป็นอยู่ทางธรรมชาติ เก็บขยะริมหาด และบริเวณอุทยาน

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 5 วัน ของการจัดงานจะให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในส่วนของกลุ่มเป้าหมายนั้นมีความหลากหลาย ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในรูปแบบครอบครัว นักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่เริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นหลังจากการเปิดประเทศ จำนวนสถิติ 10% ของประชากรประเทศมาเลเซียที่เข้ามาในประเทศไทย โดยเปิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ของจังหวัดนราธิวาส ที่จะรังสรรค์ว่าวนานาชาติและบอลลูนโชว์ รวมทั้งอาหารจากหลากหลายพื้นที่ ยังมีดนตรี สนุกจากศิลปินรับเชิญซึ่งเป็นลูกหลานของชาวจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่สำคัญของงานคือเหล่ายูทูปเบอร์ และ ติกต๊อกเกอร์ ที่โด่งดัง และยังเป็นคนในจังหวัดนราธิวาส ที่มาช่วยการสร้างการรับรู้ให้ทุกคนใน ประเทศเข้าถึงจังหวัดนราธิวาสให้มากขึ้น และมาสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับเยาวชน ที่มาร่วมงาน OXYGEN ในครั้งนี้ด้วย

ทางด้านว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ทั้งนี้ผู้จัดงานได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดนราธิวาส และการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ปลายแหลมบนคาบสมุทรมลายู หนึ่งใน 3 จังหวัดปลายด้ามขวาน มีพรมแดนติดประเทศมาเลเซีย นอกจากจะมี ทรัพยากรธรรมชาติสวยงามหลากหลายเป็นเอกลักษณ์ ทั้งแม่น้ำ ทะเล ป่าไม้ ภูเขา สายธารทางประวัติศาสตร์ยังเชื่อมร้อยเรื่องราวจากทั่วทุกสารทิศมาบรรจบกัน ผ่านเส้นทางการค้าที่ถูกเรียกขานว่า “เส้นทางสายไหมทางทะเล” ซึ่งหากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนราธิวาส ก็คงจะต้องนึกถึงหาดอ่าวมะนาวซึ่งเป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว  4 กิโลเมตร และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด

ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยว หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวจังหวัดนราธิวาส เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนในชุมชนท้องถิ่น มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนั้นยังเล็งเห็นโอกาส ทางการท่องเที่ยวในการกลับมาประกอบอาชีพ และพัฒนาบ้านเกิดและชุมชนของตน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ชุมชนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆมีกระบวนการคิด วิเคราะห์ วางแผน มีภูมิคุ้มกัน และมีภาคภูมิใจ และหวงแหนในทรัพยากรของตนเอง สืบทอดและรักษาวิถีวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก หรือโลกาภิวัตน์เพื่อบรรลุเป้าหมายในการใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชนของตนและให้ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนซึ่งหากทุกชุมชนเรียนรู้ที่จะดูแลบ้านตัวเองให้ดีให้น่าไปเยือน การท่องเที่ยวของประเทศไทยในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค หรือระดับประเทศก็จะมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างแท้จริง

ข่าว/กรียา/นราธิวาส

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ