เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 มิ.ย.67 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมชูปถัมภ์ และภริยา พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่หมู่ 8 บ้านหนองบัว ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พบปะสมาชิกและประชาชน ในพื้นที่โดยมี นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร นายพูลสุข อุเทนพันธ์ เพื่อนสนิทต่างรุ่น นายสวง ริ้วงาม นายก อบต.รับร่อ นายสุนทร น้อยราช กำนันตำบลรับร่อ ชาวใต้ชลบุรีและภาคตะวันออก สมาคมชาวปักษ์ใต้จ.สุราษฎร์ธานี และสมาชิกสมาคม ชมรม จากหลายจังหวัดร่วมให้การต้อนรับ
บรรยากาศการต้องรับเต็มไปด้วยความอบอุ่น มีการมอบช่อดอกไม้ ดอกกุหลาบ และแห่ชูป้ายลักษณะรักชื่นชอบและให้กำลังใจแก่บิ๊กโจ๊ก ก่อนจะมีนักน้องสาวชาวปักษ์ใต้ชื่อดังน้องบุ๋ม ปาจารี นวลแก้ว ร้องเพลงต้อนรับอีกทั้งมีแสดงฟ้อนรำของกลุ่มแม่บ้านตำบลรับร่อ หลังจากนั้นบิ๊กโจ๊กขึ้นเวทีชั่วคราวกล่าวขอบคุณที่ให้การต้อนรับว่า “โดยปกติไม่ค่อยได้มาจ.ชุมพรเพราะ ชุมพรไม่ค่อยมีเหตุ โดยมีนายกนพพร อุสิทธิ์ ดูแลทุกข์สุขอย่างดี ทำให้ชาวชุมพรมีความสุข และส่วนใหญ่จะลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ฯ จ.นครศรีธรรมราช 10 ปีที่ผ่านมาคนชุมพรเป็นเศรษฐีเต็มตัวกันมากขึ้น อยู่ดีกินดี ความลำบากหายไปเพราะว่าราคาทุเรียนสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่มีอาชญากรรมเป็นความโชคดีของชาวชุมพร” บิ๊กโจ๊กยังอวยหยอดคำหวานชื่นชมกำนัน นายกอบจ.ว่า “ทุกคนมาจากการเลือกตั้งไม่ได้มาจากการแต่งตั้ง การเลือกตั้งมาจากพี่น้องประชาชนเป็นคนเลือก ฉะนั้นคนเหล่านี้เป็นตัวแทนที่เป็นคนดีอย่าลืมว่า สส.ทั้งจังหวัดมี7-8 คน แต่นายก อบจ.มีแค่ 1 คนถ้าไม่ดียืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้” บิ๊กโจ๊กยังขอโทษมวลชนที่รอตนเองนาน 2-3 ชั่วโมงเพราะกะเวลาผิด แต่ตนเองตั้งใจว่ามาที่นี่ที่เดียวแล้วกลับกรุงเทพฯเลย”
บิ๊กโจ๊ก ยังกล่าวบนเวทีอีกว่า ผมเป็นคนใต้วันนี้ตนสวมหมวกอีกใบคือ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูประถัมภ์ พี่น้องทุกคนต้องภาคภูมิใจในความเป็นคนใต้ สมาคมฯเป็นสมาคมที่ 2 ของประเทศไทยที่จัดตั้งเป็นสมาคมฯพระบรมราชูประถัมภ์ในสมัยราชการที่ 7 โดยมีผู้ก่อตั้งคือพันตรี หลวงอภิบาล ภูวนาท เป็นคนริเริ่มก่อตั้ง ทราบหรือไม่ว่าใครที่มารับช่วงต่อยอดและทำให้สมาคมชาวปักษ์ใต้เจริญมาถึงทุกวันนี้ก็คือคนจังหวัดชุมพร เป็นนายตำรวจที่ผมให้ความเคารพศรัทธาเชื่อถือและยึดเป็นแบบอย่างมายาวนานในการทำงานคือ ท่านพล.ต.อ.มนัส ครุฑไชยันต์ เกษียณสมัยเป็นรองอธิบดีกรมตำรวจ มีฉายาสมัยเป็นผู้บัญชาการตำรวจว่า ตำรวจที่นอนทั้งเครื่องแบบเพราะเหตุเกิดตี 1 ตี2 ตี 3 พล.ต.อ.มนัชฯ ถึงที่เกิดเหตุก่อนร้อยเวรอีกนี่คือคนใต้เราเวลาทำงานทำจริง เป็นต้นแบบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่เป็นตัวอย่าง เรามีพลเอกเปรมติณสูลานนท์ที่เป็นรัฐบุรุษซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนใต้ ผมเองรับหน้าที่สองส่วนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนายกสมาคมฯผมยิ่งทำตัวให้ดีเพื่อเป็นที่พึ่งที่หวังของคนใต้ทั้ง 14 จังหวัดและคนไทยทั้งแผ่นดิน
บิ๊กโจ๊ก กล่าวอีกว่า “ผมเหลือเวลาราชการอีกประมาณกว่า 7 ปี ถ้าผมมีโอกาสจะทำให้ผู้กำกับทุกแห่งดูแลคนในพื้นที่อย่างเสมอภาคกันเวลามีเหตุ ไม่ต้องคิดถึงสายไหมต้องรอด ไม่ต้องคิดถึงกันจอมพลัง แต่ท่านต้องคิดถึงผู้กำกับโรงพัก ผมเห็นความลำบากมาตั้งแต่เด็ก วันนี้ผมเติบโตมาถึงรองผบ.ตร.ผมถึงให้คนพบง่ายที่สุด” อีกอย่างได้ยึดแนวทางของพ่อขุนรามคำแห่งพระองค์ท่าน ถ้าผมมีโอกาสคนเหล่านี้ไม่ต้องเดินทางมาหาผมแต่ไปหาผู้กำกับใกล้บ้านและจบที่นั่นเลย วันนี้ต้องทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในตำรวจ ทั้งหมดเป็นความตั้งใจของผมที่จะนำความยุติธรรมมาคืนสู่ประชาชนให้มากที่สุด
“ วันนี้มีโอกาสมาชุมพรเพื่อมารับกำลังใจจากทุกท่าน และเอากำลังใจจากท่านมาขับเคลื่อนประเทศชาติ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นคนใต้รวมถึงนายชวน หลีกภัย บอกว่าโจ๊ก ทำตัวให้ดีนะเราคือความหวังของคนใต้ ” ต่อมานายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ได้ขึ้นเวทีกล่าวต้อนรับแสดงความรักความผูกพันแก่บิ๊กโจ๊กว่า รอง สุรเชษฐ์ เป็นเพชรเม็ดหนึ่งของคนปักษ์ใต้ที่เราพยายามเฝ้าติดตามและให้กำลังใจ ณ วันหนึ่งอยากให้มีโอกาสเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ว่าปัญหาอุปสรรค์มีไว้แก้ทุกเรื่องต้องจบด้วยดี ถึงบิ๊กโจ๊กมาผิดเวลา คนมันรักนานแค่ไหนก็จะรอจนได้พบเจอกันเราพี่น้องชาวจังหวัดชุมพรและเดินทางมาอีกหลายจังหวัดเป็นกำลังใจให้รอง สุรเชษฐ์ จึงขอบารมีของเสด็จกรมหลวงชุมพร เขตรอุดมศักดิ์ ดลบันดาลขอให้รองบิ๊กโจ๊ก รอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ”
ภายหลังจากบิ๊กโจ๊กขึ้นขอกำลังใจจากมวลชนชาวชุมพร และจากสมาคมฯ ชมรมของคนปักษ์ใต้ หลังจากนั้นมีการมอบช่อดอกไม้และของขวัญของฝากเป็นที่ระลึกจากตัวแทนหลายจังหวัดเสร็จแล้วได้เดินทางกลับ
เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร 098-9515199