ชุมพร – เหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมายผญบ.เตือนไม่ฟังหลังรุกป่าต้นน้ำปลูกปาล์ม

ป่าไม้สนธิกำลังซุ่มจับคาหนังคาเขา หลังประกันตัวจนท.ตามรอยพบใช้รถไถชักลากไม้ออกนอกพื้นที่  ปลัดอำเภอ-ป่าไม้-ชาวบ้านไม่ยอมโร่ขึ้นโรงพักร้องถอนประกันแจ้งข้อหาเพิ่มลักทรัพย์ เคยถูกจับมาแล้วแต่ยกฟ้องเพราะมีลูกเขยเป็นนายตำรวจเจ้าของคดีจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ย่ามใจก่อเหตุซ้ำ

วันที่ 10 ก.ย. 67 ที่ศูนย์ประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งระยะ อ.สวี  จ.ชุมพร นายบุญก้อง ศรีสงคราม  ปลัดอำเภอสวี หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง  น.ส.กาญจนา  วีระวงศ์  นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชุมพร 6 (นาสัก)  น.ส.พจนาจ  ชมพูพล  นิติกรศูนย์ป่าไม้ชุมพรพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้    เจ้าหน้าที่ไทยอาสาป้องกันชาติ  นายอุดม  ช่วยเต็ม  กำนันตำบลทุ่งระยะ  นายอนุสรณ์  ทิพย์รัตน์  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ตำบลทุ่งระยะ  นายทรงพล  ทองมี  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน น.ส.อภิสรา  พรหมมาศ  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านคณะกรรมการป่าชุมชน “พรุระกำหวาน”

โดยทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติเห็นชอบให้รื้อถอนผลอาสิน ที่มีผู้บุกรุกแผ้วถางเพื่อทำประโยชน์ส่วนตนในพื้นที่ป่าชุมชน “ป่าพรุระกำหวาน” ซึ่งหลังจากผู้ต้องหาถูกจับกุมและประกันตัวออกมาแต่มีการบุกรุกเข้าข่ายกระทำความผิดซ้ำ ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่การรื้อถอนยังไม่สามารถทำได้ต้องนำมติเสียงทั้งหมดเข้าประชุมระดับจังหวัดในวันที่ 19 ก.ย.นี้ถึงจะเริ่มดำเนินการได้

เวลาต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสวี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย และชาวบ้านคณะกรรมการป่าชุมชนฯ ได้ลงพื้นที่ป่าพรุระกำหวาน ซึ่งอยู่ห่างจากองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งระยะประมาณ 3-4 กิโลเมตร เพื่อสำรวจความเสียหายอีกครั้งหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าชายวัย 64 ปี ผู้ต้องหาประกันตัวแล้วกลับมากระทำความผิดซ้ำ โดยเจ้าหน้าที่พบว่ามีร่องรอยต้นไม้เพิ่งถูกตัดใหม่อีกจำนวนหนึ่ง และนำต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันมาปลูก  จากการสำรวจยังพบมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดจำนวน 2 ตัว ดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่อีกด้วย  มีต้นชมพู่น้ำขนาดใหญ่ถูกกันโคนเพื่อให้ยืนต้นทยอยเฉาตายอีกเป็นจำนวนหลายต้น

และร่อยรอยล้อรถไถเข้ามาชักลากไม้ที่ถูกตัดออกไปจากป่าชุมชนเจ้าหน้าที่ป่าไม้และกำลังของผู้นำชุมชนชาวบ้านได้สะกดรอยตามไปประมาณ 100 เมตรพบท่อนไม้ต้นชมพู่น้ำขนาดใหญ่ยาวประมาณ 3-4 เมตรวางอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จึงตามรอยลากไม้ต่อจึงพบอีกท่อนยาวประมาณ 4 เมตร วางอยู่ริมทางของรอยล้อรถ เจ้าหน้าที่ไม่ลดละตามรอยล้อรถไถจนกระทั่งไปพบรถไถจอดนิ่งอยู่ในโรงรถซึ่งปลูกแยกออกมาจากตัวบ้านพักของผู้ต้องหารายนี้เจ้าหน้าที่ร่วมกับผู้น้ำชุมชนชาวบ้านถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้ต้องหาให้ออกมาพบแต่ไม่มีเสียงตอบรับ คาดว่าอาจจะเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านพักเพราะเจ้าหน้าที่บางคนเห็นผู้ต้องหาก่อนหน้านี้นั่งลับใบเลื่อยยนต์อยู่บริเวณบ้านพัก น.ส.กาญจนา  วีระวงศ์  นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชุมพร 6 (นาสัก)  เปิดเผยกรณีจากคดีบุกรุกป่าชุมชนดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชพ.6  (นาสัก) ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกป่าชุมชน ป่าพรุระกำหวาน หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร จึงพร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการป่าชุมชนป่าพรุระกำหวานวางแผนเข้าตรวจสอบ พบมีการบุกรุกทำลายป่าฯเพื่อปลูกพืชผลอาสินจำนวน 1 แปลงเนื้อที่ 9-3-94 ไร่ พบชาย 1 ราย อยู่ในที่เกิดเหตุขณะกำลังแผ้วถางไม้โดยใช้มีดพร้า เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายคนดังกล่าวได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ตามสามารถจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางเป็นมีดพร้า 1 ด้าม ไม้กระยาเลยจำนวน 8 ท่อน ค่าความเสียหายทั้งหมดอยู่ในระหว่างการประเมิน

ตรวจสอบความเสียหายเป็นการบุกรุกแผ้วถางป่าชั้นล่างและบางส่วนมีไม้ใหญ่ถูกโค่นล้มคาตอยังไม่ได้บั่นทอนปลายไม้ และมีการปลูกพืชผลอาสินเป็นปาล์มน้ำมันจำนวน 50 ต้น อายุประมาณ 1-2เดือน จึงได้ทำการจดบันทึกตรวจยึดจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวีดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ผิดตาม พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 มาตรา63(1) ฐานยึดครอง ครอบครอง หรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย หรือที่ทำกิน(2) ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ขุดหาแร่  ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครอง” 

หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชุมพร 6 (นาสัก)  เปิดเผยอีกว่า ป่าชุมชน ป่าพรุระกำหวานมีพื้นที่ประมาณ 137 ไร่ ดูแลโดยกรมป่าไม้ ชาวบ้านผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง ได้ช่วยกันดูแลและช่วยกันขุดลอกเป็นคลองกั้นแนวพื้นที่ป่าไว้เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกละเป็นป่าต้นน้ำหัวใจหลักของชุมชนต่อมาได้มีการบุกรุกครั้งแรกเมื่อปี 2562 ต่อมาได้ถูกปล่อยตัวด้วยพยานหลักฐานอ่อน และมีการบุกรุกต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งใช้วิธีค่อยๆแผ้วถางด้วยเครื่องมือที่มีอยู่เอง จนกระทั่งชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้วางแผนเข้าจับกุมอีกครั้งซึ่งผู้กระทำความผิดคนเดียวกัน

ด้านผู้ใหญ่บ้าน  เผยว่า ผู้ต้องหาเป็นคนในหมู่บ้าน มีสวนปาล์มน้ำมันติดแนวเขตป่าชุมชน เคยว่ากล่าวตักเตือนมาโดยตลอดให้เลิกกระทำความความผิดดังกล่าวแต่เหมือนจะเข้าใจกลับบุกรุกเหมือนเดิมครั้งแรกเมื่อปี 2562 แผ้วถางบุกรุกจำนวน 3 ไร่ ถูกเจ้าหน้าที่จับส่งตำรวจดำเนินคดี ขณะนั้นตนเองยังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสมัยนั้นเป็นลูกเขยผู้ต้องหา ไม่ทราบว่าเหตุใดศาลจึงยกฟ้องครั้งนั้นรอดมาได้อาจจะย่ามใจจึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย ชาวบ้านผู้นำชุมชนซึ่งมีส่วนร่วมในการดูแลป่าพรุระกำหวานสุดจะทนถึงพฤติกรรม

ผู้ใหญ่บ้าน เผยอีกว่า ป่าพรุระกำหวาน เป็นป่าสมบูรณ์มีต้นไม้ใหญ่เช่นต้นสัก ต้นชมพู่น้ำ อายุนับ 100 ปี  เป็นป่าต้นน้ำและยังเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำยามหน้าแล้งให้ชาวบ้านได้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ช่วยดูดซับน้ำไม่ให้น้ำท่วม สำหรับผู้ต้องหารับสารภาพในขณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมซึ่งมีคลิปหลักฐานชัดเจน แต่ทราบว่าปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ปลัดอำเภอสวี กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านคณะกรรมการป่าชุมชนฯเดินทางออกจากพื้นที่ป่าพรุระกำหวาน ทั้งหมดได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วิษณุ  สุระวดี ผกก.สภ.สวี เพื่อเร่งติดตามดำเนินคดีกับตัวผู้ต้องหาบุกรุกป่าฯให้ถึงที่สุด  โดยที่น.ส.น.ส.กาญจนา  วีระวงศ์  นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชุมพร 6 (นาสัก)นำพยานหลักฐาน แจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาคนดังกล่าวเพื่อในข้อหา ลักทรัพย์ และยื่นร้องเพิกถอนประกันตัวชั่วคราวของผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากประกันออกไปโดยให้เหตุผลพร้อมหลักฐานว่าเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดี  โดยผู้กำกับการสภ.สวี พร้อมรับเรื่องไว้และแจ้งต่อผู้ร้องว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานหากมีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือกระทำความผิดซ้ำก็จะเรียกตัวมารับทราบพร้อมทั้งส่งขอฝากขังต่อศาลทันทีขอให้มั่นใจในขบวนยุติธรรม”

เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร 098-9515199

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ