ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด และแพงที่สุดของกองทัพเรือไทย

ในปี 2555 สหรัฐได้อนุมัติการขายขีปนาวุธพื้นสู่อากาศแบบ RIM-162 Evolved SeaSparrow Missile (RIM-162 ESSM) รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ชิ้นส่วน การฝึกอบรม และการสนับสนุนด้านลอจิสติกส์ให้กับรัฐบาลไทย โดยใช้วิธี Foreign Military Sales (FMS) หรือโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเพื่อขายอาวุธให้กับประเทศพันธมิตร ในสัญญานั้นประกอบไปด้วยขีปนาวุธแบบ RIM-162 ESSM จำนวน 9 นัด, ชุดบรรจุอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ MK25 จำนวน 3 ชุด และชุดบรรจุสำหรับการขนส่ง MK783 จำนวน 4 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น $18 million (540 ล้านบาท) และในปี 2558 สหรัฐได้อนุมัติการขายขีปนาวุธพื้นสู่อากาศแบบ RIM-162 Evolved SeaSparrow Missile (RIM-162 ESSM) รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ชิ้นส่วน การฝึกอบรม และการสนับสนุนด้านลอจิสติกส์ให้กับรัฐบาลไทยอีกครั้ง ในสัญญานั้นประกอบไปด้วยขีปนาวุธแบบ RIM-162 ESSM จำนวน 16 นัด, ชุดบรรจุอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ MK25 จำนวน 3 ชุด และชุดบรรจุสำหรับการขนส่ง MK783 จำนวน 10 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น $26.9 million (941 ล้านบาท) ซึ่งทำให้กองทัพเรือไทยได้ทำการจัดหา RIM-162 ESSM ทั้ง 2 ล็อต รวม 25 นัด มูลค่ารวม 1,481 ล้านบาท

ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศแบบ RIM-162 Evolved SeaSparrow Missile (ESSM) ได้รับการพัฒนามาจากขีปนาวุธ RIM-7 Sea Sparrow ใช้เพื่อปกป้องเรือจากการถูกจู่โจมทางอากาศอันได้แก่ เครื่องบินรบ อากาศยานไร้คนขับ เฮลิคอปเตอร์ ขีปนาวุธร่อน รวมไปถึงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือ ซึ่ง ESSM ของกองทัพเรือไทยนั้น ได้ถูกติดตั้งในท่อยิงแนวดิ่งแบบ Mk.41 VLS (Mark 41 Vertical Launch System) ซึ่งใน 1 ท่อยิง (Cell) สามารถบรรจุ ESSM ได้ 4 นัด ตามข้อมูลแล้ว RIM-162 Evolved SeaSparrow Missile (RIM-162 ESSM) เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยกลาง ปัจจุบันมีมูลค่านัดละประมาณ 66 ล้านบาท ตัวขีปนาวุธหนัก 280 กิโลกรัม ยาว 3.66 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 25.4 เซนติเมตร หัวรบหนัก 39 กิโลกรัม ใช้กลไกการระเบิดแบบ Proximity fuze ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนแบบ MK 143 MOD 0 solid fuel rocket พิสัยการยิงไกลสุด 50 กิโลเมตร (27 nmi) ที่ความเร็วมากกว่า 4 มัค (1.361 กิโลเมตรต่อวินาที) ใช้ระบบนำวิถีแบบ Data Link และ Semi-Active Radar Homing

RIM-162 ESSM ติดตั้งอยู่บนเรือทั้ง 3 ลำของกองทัพเรือไทย คือเรือหลวงนเรศวร (FFG-421), เรือหลวงตากสิน (FFG-422) และเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช (FFG-471) โดยเรือแต่ละลำ ติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่งแบบ Mk.41 VLS ลำละ 1 แท่นยิง ซึ่ง 1 แท่นยิงมี 8 ท่อยิง และ 1 ท่อยิงสามารถบรรจุอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ RIM-162 ESSM ได้ท่อยิงละ 4 นัด รวม 32 นัดต่อแท่นยิง

ในปี 2559 กองทัพเรือไทยได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศแบบ RIM-162 Evolved SeaSparrow Missile หรือ ESSM จากแท่นยิงอาวุธปล่อยทางดิ่งแบบ Mk.41 VLS บนเรือหลวงนเรศวร เข้าหาเป้าหมายที่เป็นโดรนอากาศยานเป้าแบบ BQM-74E Chukar III Target Drone ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา จากเรืออู่ยกพลขึ้นบกชั้น Whidbey Island คือ USS Germantown (LSD-42)ในการฝึก CARAT 2015 ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐ ในช่วงสายของวันที่ 30 สิงหาคม ปีพ.ศ.2558 โดยทำการยิงจำนวน 1 นัด ที่ CELL 4 จากแท่น VLS ช่องด้านบนซ้ายมือสุด ผลการยิง ESSM เป้าหมาย DRONE ที่ปล่อยมาจาก USS Germantown (LSD-42) เป้าหมายถูกทำลายเรียบร้อย ที่ระยะยิงประมาณ 9 nm. (16.668 กิโลเมตร)

Credit : กองทัพเรือไทย ,เพจเฟสบุ๊ก : Military Weapons อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ