ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ สั่งการให้ ปภ.สุราษฎร์ฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งเข้าพื้นทึ่ช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ให้อพยพ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัย คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน ในช่วงวันที่ 12 – 13 มกราคม 2568 จากอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
โดยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงช่วงเช้าวันนี้ (12 มกราคม 2568) ได้เกิดภาวะคลื่นซัดหาฝั่ง ตลอดแนวชายฝั่งทะเลของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนี้ มีรายงานผลกระทบในพื้นที่ ได้แก่ ตำบลท่าชนะ อำเภอท่าชนะ , ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา , อำเภอท่าฉาง ,ตำบลกระแดะ ตำบลตะเคียนทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ , ตำบลชลคราม ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก และอำเภอเกาะพะงัน โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งลงพื้นที่ติดตามความเสียหาย และประเมินพื้นที่เสี่ยง หากมีสถานการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้อพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทันที พร้อมกับ เน้นย้ำให้สำนักงานเจ้าท่าจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานสาขา แจ้งเตือนให้ชาวประมง และเรือโดยสารขนาดเล็ก งดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด ส่วนเรือเฟอร์รี่ ให้ประเมินสภาพคลื่นลมและติดตามประกาศเตือนอย่างใกล้ชิด หากมีการฝ่าฝืน จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
อนึ่ง ล่าสุด เรือโดยสารเรือเร็วบริษัทลมพระยา ได้ประกาศงดให้บริการนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองและเกาะเต่า เกาะนางยวน เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายจากสภาพคลื่นลมแรงในระหว่างวันที่ 12 – 13 มกราคม 2568
อุไรวรรณ ทีมข่าว สุราษฏร์ธานี รายงาน
