เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 28 มีนาคม 68 ร.ต.ท.วรุณ สมทรง รอง สว.สอบสวน สภ.ปะทิว อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก น.ส.ลัดดาวัลย์ ดวงพุมเมศร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า มีเหตุยิงกันตาย ที่ห้องเช่าหลังสถานีรถไฟบ้านคลองวังช้าง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ณรงค์ธรรม พันธ์พฤกษ์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.ปะทิว กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปะทิว อาสากู้ชีพกู้ภัย สมาคมนักข่าว จ.ชุมพร(ปะทิว)
ที่เกิดเหตุอยู่ เป็นบ้านเช่าแบบห้องแถวชั้นเดียว ปลูกติดกัน 5 ห้อง ริมถนนสายปะทิว-บ้านคลองวังช้าง โดยห้องที้เกิดเหตุเลขที่ 246 ซึ่งเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ชื่อ ร้านเจ้นุ้ย สุขเสมอ ภายในร้านพบศพนายหมวดตรี เสมอ สุขปะวิทย์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244 ม.4 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร สวมเสื้อยืดสีดำ แขนกุด กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล สภาพนอนคว่ำจมกองเลือดอยู่ตรงหน้าประตูห้องเช่า ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายสิทธิพร สังข์ทอง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 384 ม.4 ต.ชุมโค องปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของนายหมวดตรี เสมอ สุขปะวิทย์ เอง ยืนถืออาวุธปืนลูกซองสั้น เดินวนเวียนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เกลี่ยกล่อมให้วางอาวุธปืนลง และสามารถจับกุมตัวได้อย่างละม่อม พร้อมยึดอาวุธปืนลูกซองไว้ โดยในรังเพลิงมีปลอกกระสุนที่ยิงแล้วคาลำกล้อง 1 นัด และยังพบกระสุนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 ยังไม่ได้ยิง วางอยู่บนโต๊ะอาหาร 1 นัด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวนายสิทธิพรพร้อม นางเรณู แดงขวัญทอง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 384 ม.4 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแม่ของนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุ ออกจากที่เกิดเหตุเพราะหวั่นจะเกิดเหตุญาติๆผู้ตายจะเข้ามาทำร้าย แล้วนำมายังห้องสืบสวน สภ.ปะทิว
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบชันสูตรศพพบ นายหมวดตรี เสมอ สุขปะวิทย์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณศีรษะช่วงท้ายทอย เป็นรูขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ทางอาสากู้ชีพกู้ภัย สมาคมนักข่าว จ.ชุมพร(ปะทิว)ทำการจัดเก็บศพ เพื่อนำส่งให้ทาง รพ.ปะทิว ทำการชันสูตรพลิกศพอย้างละเอียดอีกครั้ง สอบถาม น.ส.สาริสา บัวหลวง อายุ 45 ปี และ น.ส.อรภรณ์ บัวหลวง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.2 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นญาติของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า บ้านตนเองอยู่ไม่ไกลมากนัก และหลังจากที่ได้ทราบข่าวก็รีบมาดู และก็พบผู้ก่อเหตุยังเดินถืออาวุธปืนอยู่ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ได้เข้าไปพูดคุย จนนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุยอมให้จับกุม ส่วนสาเหตุนั้นตนเองไม่แน่ใจ แต่ก์น่าเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเสพยาเสพติดเพราะดุอาการแล้วลุกลี้ลุกลนเก็บอาการไม่อยู่
น.ส.ลัดดาวัลย์ ดวงพุมเมศร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ทราบว่า นายสิทธิพร นั้น เป็นลูกชายคนเดียวของ นางเรณู ซึ่งก่อหน้าทั้งสองอยู่บ้านตนเองซึ่งห่างจากบ้านเกิดเหตุไม่มาก และต่อมา นางเรณู ซึ่งเป็นแม่ม่ายลูกติด มีนายหมวดตรี เสมอ มาติดพันและได้อยู่กินฉันสามีภรรยากันและได้มาเช้าห้องแถวเปิดร้านอาหารตามสั่ง ตลอดอยู่ด้วยกันประมาณ 1 ปี ในฐานะผู้ใหญ่บ้านก็ไม่พบว่าจะมีเหตุอันใดที่จะรุนแรนได้ นอกจากพบเพียง นางเรณู เป็นคนขี้หีงสามีเป็นอย่างมาก และมักจะมีปากเสียงกันบ้างหากมีใครมาข้อแวะพูดคุยกับนายหมวดตรี เสมอ ผู้ตาย แต่เรื่องอื่นๆนั้น ตนเองไม่ยืนยันว่ามาจากอะไรกันแน่
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นางเรณู ซึ่งอยู่ที่ สภ.ปะทิว พร้อมได้พูดคุยถึงมูลเหตุของการก่อเหตุของลูกชายในครั้งนี้นั้นมาจากเหตุอะไร ซึ่งนางเรณู ได้เล่าว่า ตนเองได้อยู่กินกับนายหมวดตรี เสมอ มาประมาณ 1 ปี และตลอด 1 ปี ตนเองก็อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่มีอะไรมากมาย ต่างคนก็ต่างช่วยกันทำมาหากิน แต่ก้มีเพียงลูกชายตนเท่านั้น ที่มักจะบ่นและส่งข้อความมาบ้าง โทรมาบ้าง เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มักจะแวะมากินข้าวเป็นครั้งคราว โดยตัวลูกชาย จะบ่นว่า ตนเองเปลี่ยนไป แม่ไม่เหมือนเดิม พร้อมคำพูดว่า แม่ไม่เป็นตัวของตัวเองหลังจากที่ได้สามีใหม่ จะไม่ฟังตนเหมือนถูกทำของใส่ ซึ่งตนเองก็พยายามชี้แจ้งให้ลูกชายฟังว่า ความรักไม่เคยเปลี่ยนและพ่อเลี้ยง ซึ่งลูกชายจะเรียกลุง จะเป็นหวง เพราะลุงเป็นอดีต อส.และเป็นครูฝึกเกี่ยวกับงานบำบัดยาเสพติด และลุงเป็นห่วงลูกชาย อยากให้ลูกชายไม่เข้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยล่าสุดก็ได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งก็พบว่าเป็นสีม่วง และก่อนเกิดเหตุ นายสิทธิพร ได้ขับรถ จยย.มาหน้าร้าน ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่ นายหมวดตรี เสมอ ออกไปดูวัวที่ล่ามไว้ โดยตนก็ถามว่า เมื่อวานทำไมไม่มากินข้าว ซึ่งก้ไม่ได้ฟังคำตอบ เพราะหลังจากที่เอาข้าวของขึ้นรถแล้วก็เข้าไปในห้องน้ำ เพียงไม่ทันจะทำธุระเสร็จ ก็ได้ยินเสียงปืนดัง ตนเองใจหาย คิดในใจว่า ลูกชายต้องถูกสามีหรือพ่อเลี้ยงยิงแน่ แต่พอออกมาก็พบว่า พ่อเลี้ยงกลับถูกลูกเลี้ยง ตายแล้ว จึงโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ด้านนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุ ให้ปากคำว่า ตั้งแต่แม่ได้กับพ่อเลี้ยง ความรักที่แม่เคยให้กลับเปลี่ยนไป ตนเองพูดอผิดไปหมด นานวันก็ยิงทำให้ตนเองน้อยใจในความรัก จึงพยายามเก็บอาการไว้ จนในที่สุดตนเองรู้สึกว่า แม่เหมือนถูกครอบงำจากพ่อเลี้ยง จนไม่เป็นตัวของตัวเอง ตนเองจึงได้สั่งซื้อปืนมาจากเพื่อน และก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ตนเองได้เสียยาบ้าไป 1 แถวหรือ 10 เม็ด และวันนี้ก็ได้ขับรถ จยย.มาที่ร้านของแม่ และเมื่อมาถึงไม่พบพ่อเลี้ยง จึงได้นั่งรอ จนนพ่อเลี้ยง กลับเข้ามาแล้วนั่งอยู่บริเวรหน้าห้อง ตนเองจึงเดินปรี่เข้าไปพร้อมยกปืนออกมาจกาเอว ยกจ่อไปที่ท้ายทอยจ่อยิงจนล้มลง และก็รอตำรวจมาจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งขอกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ดำเนินคดีตามกำหมายต่อไป
เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร 098-9515199 รายงาน
