วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 02.00 น. ร.ต.ท.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.)ส.ทล.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนกับรถยนต์ตู้ บนถนนสายเอเชีย 41 กม.ที่ 3 ฝั่งขาขึ้น ม.1 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพรและหน่วยกู้ชีพกู้ภัย รุดเข้าตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุพบว่าทางแขวงทางหลวงชุมพร ได้ว่าจ้างให้ผู้รับเหมาเข้าทำการซ่อมแซมถนนฝั่งขาล่องใต้ และทางผู้รับเหมาได้ปิดถนนขาลง แล้วเปิดช่องทางพิเศษให้รถขาล่องใต้ ขับสวนทางกับรถขาขึ้น โดยในแท่นปูนหรือบาดิเออร์มาวางกั้นช่องเดินรถ โดยบนสะพานข้ามคลองขุดนาคราชจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สี่ประตู สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน 3 ขบ 6617 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ขวางถนนช่องซ้าย ภายในรถมากัน 3 คน ทราบชื่อนายมนตรี ทรงศักดิ์ทวีสิน เป็นคนขับและมี น.ส.พณา พงศ์ถิ่นทองงาม และนายชาญชัย พงษ์สัตตานาค ซึ่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพฯจึงได้นำตัวทั้งสามส่ง รพ.ชุมพร
ส่วนรถยนต์คู่กรณี เป็นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 30-0451 ปัตตานี ด้านข้างรถระบุเป็นรถรับจ้างไม่ประจำทาง สภาพด้านหน้าพังยับมีนายฮิบรอเฮง มะเซ้ง อายุ 49 ปี เป็นคนขับ ถูกชนอัดติดอยู่กับพวงมาลัย เจ้าหน้าที่จึงได้นำเครื่องตัดถ่างมาตัดชิ้นส่วนตัวรถ ก่อนนำออกมาได้ ในสภาพขาขวาผิดรูป ถูกนำตัวส่ง รพ.ชุมพร อย่างเร่งด่วน พร้อมผู้โดยสารที่มากับรถตู้ อีก 12 คน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา มีพาสปอร์ตถูกต้อง ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
จากการสอบถามนายสุริยา ปู่กระสิงห์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/9 ม.1 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ทราบว่า ตนเองเป็นอาสากู้ภัยของมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ซึ่งมีบ้านอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดหตุ และเมื่อหลังจากที่ได้รับแจ้ง จึงได้ขับรถ จยย.ออกมาตรวจสอบ ก็พบว่า รถยนต์กระบะชนประสานกับรถตู้ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะคนขับรถตู้ ติดอยู่ภายในจึงได้แจ้งขอกำลังเจ้าหน้าที่ชุดตัดถ่างมาช่วยสนับสนุน และจากสอบถามคนขับรถตู้ ซึ่งสามารถสื่อสารโต้ตอบได้ ทราบว่ากำลังขับรถมาจาก จ.สระแก้ว เพื่อไปส่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ที่ จ.สงขลา และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์กระบะชนแท่นปูนกั้นกลางถนนจนแท่นปูนกระเด็น เป็นช่วงที่ตนเองได้ขับรถสวนทางมาพอดี รถกระบะได้พุ่งชนกับรถตนเองอย่างจัง
ด้านผู้เหตุการณ์ซึ่งเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ(คนใส่หมวก)และขณะที่ตนเองได้ขับรถ จยย.ตามท้ายรถตู้มาห่างๆ ก็สังเกตรถยนต์กระบะ ซึ่งวิ่งสวนทางมาและขับเหมือนจะมองไม่เห็นแท่นปูน อยู่ก็พุ่งชนแท่นปูนจนกระเด็น แล้วรถก็พุ่งชนประสานงาอย่างจังกับรถตู้โดยสาร จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งตนเองยอมรับว่าตั้งแต่ที่ทางแขวงทางหลวง ได้ให้ผู้รับเหมามาทำการซ่อมถนน บังคับให้รถวิ่งสวนทางกัน แต่ผู้รับเหมาเมื่อนำแท่นปูนมาปิดกั้นแล้วแต่ไม่ยอมติดตั้งไฟส่องสว่างคอยเตือนเป็นระยะ แต่นี้ติดไฟเพียงหัวท้ายเท่านั้น รถต่างถิ่นเขาไม่ชินทาง ก็เกิดอุบัติเหตุได้ และที่ผ่านมา มีชนแท่นปูน นับ 10 รายมาแล้ว
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร จะนำเหตุการณ์ครั้งที่ผ่านมารวมกระทั้งในครั้ง ไปแจ้งทางแขวงทางหลวงชุมพรเพื่อบังคับให้ทางผู้รับเหมามาแก้ไขปัญหาโดยติดตั้งไฟสัญญาณเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้เดินทางต่อไป และครั้งนี้ยังโชคดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ในขณะที่ทางพนักงานสอบสวน จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
เอกชนะ นวนละมัย ข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร 098-9515199