Author Archives: admin

วันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันที่ 17 ตุลาคมตรงกับวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการโอนกรมตำรวจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 17 ตุลาคม 2541 อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เดิมทีวันที่ 13 ตุลาคมนั้นเป็นวันตำรวจไทย แต่เพื่อร่วมแสดงความเคารพเทิดทูนต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระองค์ ดังนั้น พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น จึงมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทยไปเป็นวันที่ 17 ตุลาคม อุดมคติของตำรวจที่ดี ในแต่ละภารกิจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นำมาซึ่งความเสียสละแรงกายเพื่อปกป้องประชาชนให้สงบสุขจนเกิดความรู้สึกย่อท้อ เพื่อเป็นการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีแรงรักษาหน้าที่ต่อไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมอบหมาย อุดมคติของตำรวจไทย ที่ควรมีไว้เพื่อบ้านเมือง 9 ประการ ดังนี้ • เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ • กรุณาปราณีต่อประชาชน • อดทนต่อความเจ็บใจ • ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก • ไม่มักมากในลาภผล • มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน • ดำรงตนในยุติธรรม • กระทำการด้วยปัญญา • รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต […]

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

วันที่ 15 ตุลาคม 2565 เวลา 17.33 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเปิดอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานโครงการปรับปรุงและดัดแปลงศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายปณต สิริวัฒนภักดี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ยังได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค 2022 (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC 2022) ระหว่างวันที่ 14 – 19 พฤศจิกายน 2565 โดยจะได้ใช้ศักยภาพของศูนย์การประชุม ฯ อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อต้อนรับผู้นำประเทศต่าง ๆ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกคน

สิทธิของผู้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ครอบครองสมบัติจักรแก้ว ๗ ประการเกิดขึ้นอันนี้เรียกว่าเป็นสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิถ้าว่าตามการบริโภคก็เรียกว่า ทายาทบริโภค หรือสามีบริโภค บริโภคอย่างเป็นเจ้าของแท้จริงบริโภคตามลำดับของตระกูลมาจริง ๆที่ท่านกล่าวว่า พระเจ้าจักรพรรดิ เมื่อสวรรคตแล้ว ๗ วันสิ่งเหล่านั้นจะหายไป สิ่งเหล่านั้นก็คือสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ จะหายไป ถ้าไม่มีทายาท ทายาทคือลูก ลูกคนโต ลูกชายคนโตนิจะเป็นผู้สืบทอดมรดกทีนี้ผู้สืบทอดมรดกนั้นก็ต้องประพฤติจักรวัตติวัตร ก็คือวัตตะ ข้อปฏิบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็คือต้องถือศีล ๕ โดยเคร่งครัดนี้อย่างหนึ่งถือศีลอุโบสถในวันพระ อันนี้อีกอย่างหนึ่ง ขาดไม่ได้ถ้าไม่ถือศีลอุโบสถในวันพระ ไม่ถือศีล ๕ โดยสมบูรณ์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิซึ่งเป็นสมบัติของพ่อ ที่ตกทอดมาถึงรุ่นลูกก็เกิดขึ้นไมไ่ด้เขาเรียกว่า จักรแก้ว ก็เกิดขึ้นไม่ได้ แก้วมณีก็ไม่เกิดขึ้น นางแก้วก็ไม่เกิดขึ้น ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าหากว่าไม่ถือวัตตะปฏิบัติดั่งที่ผู้เป็นพ่อ ก็คือผู้ที่สืบทอดมรดกมานั้นแหละถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อวัตรอันนั้นสมบัติอันนั้นก็เกิดขึ้นไม่ได้สมบัติอันนั้นก็ไม่เกิดขึ้น ฉะนั้นที่เราได้ฟังจากพระธรรมเทศนานิ พระเจ้าจักรพรรดิ จะเคลื่อนทัพไปที่ไหนก็ตามก็ไม่ได้ไปยึดครอง แต่ว่าไปสอน สอนให้พระราชา มหากษัตริย์ในแคว้นนั้น ๆได้ประพฤติตามธรรม เพราะพระเจ้าจักรพรรดิก็เคารพธรรมเคารพธรรมข้อที่๑ ไม่เบียดเบียน๒ ไม่ลักขโมยปล้นจี้ชกชิงวิ่งราว๓ ไม่ประพฤติผิดในกาม๔ ไม่โกหก๕ ไม่ดื่มสุรายาเสพติดนี้คือธรรม ธรรมที่พระเจ้าจักรพรรดิถือ พอถึงวันพระ พระเจ้าจักรพรรดิก็ถือศีลอุโบสถ […]

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ เปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ

วันนี้ (13 ตุลาคม 2565 ) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย Credit : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

นับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เมื่อครั้งดำรงพระบรมราชอิสริยยศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระปรอทต่ำ หายพระทัยเร็ว มีพระเสมหะ พระปับผาสะซ้ายอักเสบ มีพระโลหิตเป็นกรด และพบว่ามีน้ำคั่งในช่องเยื่อหุ้มพระปัปผาสะเล็กน้อย คณะแพทย์จึงทำการรักษาด้วยพระโอสถปฏิชีวนะ และใช้สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดำเพื่อฟอกพระโลหิต แต่มีพระความดันพระโลหิตต่ำจึงใช้เครื่องช่วยหายพระทัย พระอาการไม่คงที่ ก่อนที่พระอาการจะทรุดลงไปอีก มีการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต จนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พระอาการประชวรได้ทรุดหนักลงตามลำดับ และสวรรคตเมื่อเวลา 15.52 น. รวมพระชนมายุ 88 พรรษา ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี 4 เดือน 4 วัน วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเคลื่อนพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปยังพระบรมมหาราชวัง มีพระราชพิธีถวายสรงน้ำพระบรมศพ ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา มีการเชิญพระบรมศพลงสู่พระหีบ ประดิษฐานหลังพระแท่นแว่นฟ้าทอง ประกอบพระโกศทองใหญ่ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง รัฐบาลประกาศให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา 30 วัน และให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่รัฐไว้ทุกข์ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 14 […]

สมพระเกียรติพระบรมรูป ร.9 มีความสูง 7.41 เมตร ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

สำหรับพระรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีขนาดความสูง 7.41 เมตร หรือขนาด 4 เท่าของพระองค์จริงทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หันพระพักตร์ไปทางพระตำหนักสวนจิตรดา ถนนศรีอยุธยา  หล่อด้วยโลหะสำริด ฐานพระบรมรูปตั้งอยู่บนลานรูปไข่ ส่วนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นผังแปดเหลี่ยม ตามคติพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ อันเป็นสัญลักษณ์เบื้องแรกแห่งการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก      ส่วนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ทั้ง 8 เหลี่ยมมีแผ่นจารึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อนำพาประเทศชาติอยู่ดีมีสุข อันก่อให้เกิดความผูกพันและความจงรักภักดีที่ประชาชนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเอกลักษณ์สำคัญของไทยที่ไม่มีชาติใดเสมอเหมือน Credit : กรมประชาสัมพันธ์

สมเด็จพระกนิษฐาธิราช เจ้าเสด็จฯ แทนพระองค์ไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมรูป ร.9

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร Credit : เพจเฟซบุ๊ก พระลาน

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี เสด็จพระดำเนินเปิดงาน “Weaving the Way : A Journey of Thai Silk”

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระดำเนินเปิดงาน “Weaving the Way : A Journey of Thai Silk” ณ เจริญนครฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม นิทรรศการที่จะพาเราเปิดประตูสู่เส้นทางพระราชกรณียกิจในด้านการอนุรักษ์ ผ้าไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ภายในงานยังมีการแบ่งนิทรรศการเป็น 3 ส่วน พร้อมพื้นที่ที่จัดแสดงผลงานผ้าไทยต่างๆ ของเหล่าแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยที่นำเอา “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” มาตัดเย็บเพื่อจัดแสดงผลงานอันทรงคุณค่าของไทย ตลอดจนการนำเอาผลงานชิ้นพิเศษของดีไซเนอร์ระดับโลกมาให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความวิจิตรในด้านการออกแบบอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมพื้นที่นิทรรศการดังกล่าวในงาน “Weaving the Way : A Journey of Thai Silk” สามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่เจริญนครฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 9 – 12 ตุลาคม 2565 นี้เท่านั้น ที่มา […]

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 17.45 น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี   เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ถึงสนาม ฮ. ชั่วคราว สนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานี พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/นายทหารราชองครักษ์ กราบบังคมทูลถวายรายงาน นายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และคณะผู้บริหาร เฝ้าฯ รับเสด็จ จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จไปยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายประสาน ศรีเจริญ รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิสำนักจุฬาราชมนตรี ผู้แทนจุฬาราชมนตรี ผู้แทนหน่วยงาน และประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ  ณ อาคารมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี นายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการทดสอบการอัญเชิญมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ พร้อมกราบบังคมทูลเบิก ผู้ชนะเลิศ, รองชนะเลิศ, รางวัลชมเชย, คณะกรรมการตัดสิน และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานฯ เข้ารับพระราชทานรางวัล และโล่ที่ระลึก  […]

การเผยแพร่ข้อมูลและภาพข่าวในช่วงโศกนาฏกรรม

ไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายบุกคร่าชีวิตเด็กและผู้คนเกือบ 50 ชีวิต ที่จังหวัดหนองบัวลำภู  เป็นเรื่องที่น่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง  ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวแม้แต่ผู้เขียนเอง  ที่ได้ติดตามข่าวความน่าสลดใจดังกล่าวตลอดหลายวันที่ผ่านมา  แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าเสียใจไม่แพ้กันคือ “การเผยแพร่ข้อมูลโดยขาดความรับผิดชอบ”      ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุใหม่ๆ  ผู้เขียนได้รับข้อมูลเหตุการณ์หลังเกิดเหตุประมาณ 40 นาที  ซึ่งเป็นโพสต์ข้อความทั่วไปในเฟสบุ๊ก แต่คอมเมนต์ของโพสต์ดังกล่าวได้มีผู้คนมาคอมเมนต์”ภาพผู้เสียชีวิตโดยไม่มีการปกปิดใด ๆ” ขอย้ำว่าไม่มีการปกปิดใด ๆ จากนั้นก็เริ่มมีการนำรูปดังกล่าวไปเผยแพร่ในช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย  จนเกิดกระแสให้งดการเผยแพร่ภาพดังกล่าว  ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรงดกระทำจริง ๆ ลองนึกภาพด้วยความคิดของตนเองดูสิครับ  หากในภาพดังกล่าวเป็นคนที่เรารัก  แล้วเราเห็นรูปเขาในสภาพที่ไม่ดีปรากฏในที่พื้นที่โซเชียลซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันก็ไม่ต่างจากการที่ถูกคนอื่นเอารูปดังกล่าวติดในพื้นที่สาธารณะรอบตัวเราให้เราได้เห็นทุกเวลา มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม      ที่กล่าวไปข้างต้นนั้นเป็นกรณีของบุคคลทั่วไปที่อาจจะไม่รู้อะไร หากตักเตือนกันแล้วไม่กระทำต่อไปก็เป็นเรื่องที่ดี  แต่ที่เป็นปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือ “การปฏิบัติงานของสื่อมวลชน” ที่สื่อมวลชนบางสำนักรักษาความเสมอต้นเสมอปลายในการหาข่าวโดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรม  ทั้งที่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้  ครั้งที่ผ่าน ๆมาก็เคยทำมาแล้ว  และครั้งนี้ก็ยังทำเหมือนเช่นเคย  มีทั้งการไปสัมภาษณ์ญาติผู้เสียชีวิตหรือพ่อแม่ที่เสียลูกในเหตุการณ์หรือผู้ที่รอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ว่ารู้สึกอย่างไรกับการสูญเสีย  ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะทำในช่วงเวลาที่โศกเศร้าเช่นนี้  สื่อมวลชนบางช่องก็ทำวิดีโอจำลองเหตุการณ์การคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ให้ประชาชนดูในช่วงเวลาที่สลดหดหู่อีก      แม้ที่ผ่านมากสื่อมวลชนมักจะบอกสังคมอยู่เสมอว่า พวกเราดูแลกันเองได้ แต่เท่าที่สังคมได้รับรู้ก็มีเพียงแถลงการณ์ขอโทษที่มันไม่ได้ช่วยอะไรกับรอรับบทลงโทษจากกสทช.ที่ไม่ได้กระทบกับรายได้ของสถานีเท่าไหร่นัก  อีกนานแค่ไหนที่ปัญหาพวกนี้จะได้รับการแก้ไขเสียที      สุดท้าย ขอฝากวิธีการดูแลจิตใจเมื่อทราบข่าวหรือเห็นความรุนแรงจากสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์  เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีแนวทางดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้แข็งแรงสดใสอยู่เสมอ จัตุราคม

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ