เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบ ในห้วงระหว่างวันที่ 18 – 24 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมุ่งเน้นจับกุมการกระทำความผิดของคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) สรุปผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศระหว่างวันที่ 18 – 24 กุมภาพันธ์ 2568 มีการจับกุมรวมทั้งสิ้น 9,532 ราย แบ่งเป็น จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 207 ราย , ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง 6,239 ราย , Over […]
Monthly Archives: February 2025
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. นายสมศักดิ์ เกี้ยวเกิด นายอำเภออินทร์บุรี เป็นประธานเปิดโครงการเทศกาลถั่วลิสงไร้น้ำ ครั้งที่ 12 โดยนายสุรศักดิ์ เพ็งภาค นายกองค์การบริหารส่วนตำบลประศุก เกษตรอำเภออินทร์บุรี ส่วนราชการ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลประศุก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลประศุก ผู้นำชุมชนตลอดจนประชาชนตำบลประศุก จัดกิจกรรมประกวดถั่วลิสงพันธุ์ดี ธิดาถั่วลิสง ส้มตำลีลา และนิทรรศการถั่วลิสงไร้น้ำ เพื่อส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรให้เป็นไปตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง การท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม เป็นแหล่งการเรียนรู้การเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง เพื่อประชาสัมพันธ์ผลผลิตถั่วลิสงและของดีของตำบลประศุก เป็นการส่งเสริมวัฒนะรรมการปลูกถั่วลิสงตำบบลประศุก ทั้งนี้ตำบลประศุก ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำนาข้าวในช่วงฤดูแล้งหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้วก็จะเพาะปลูกถั่วลิสงซึ่งมีความพิเศษกว่าที่อื่น คือ เป็นการปลูกที่ไม่ต้องใช้น้ำในการเพาะปลูกเพียงแต่อาศัยความชื้นในดินและอากาศ จึงเรียกว่า ถั่วลิสงไร้น้ำ นายสรวัชร สรรเพ็ชร์ รายงาน
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวงศกร ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการข่าว สำนักข่าว อีกร ไขความเป็นจริง ประธานชมรมผู้สื่อข่าวทั่วไทย เป็นเจ้าภาพร่วม สวดพระอภิธรรมศพ คุณแม่สนิท บัวแก้ว คืนสุดท้าย ที่ บ้านเลขที่ 24/4 บ้านหนองกะพ้อ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยบรรยากาศ มีคณะทีมสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย (ทีมชาติไทย) พร้อมกับ นางจริยาภรณ์ ดลทรัพย์ ประธานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ชช.เมืองย่อยที่ 19 (บ้านเอื้ออาทร) นางฐิติรัตน์ สักยะพรต ประธานกลุ่มสตรี ชช.เมืองย่อยที่ 21 (บ้านหนองกะพ้อ คณะนางรำบ้านหนองกะพ้อ (Thitipu รำพื้นบ้าน จ.สระแก้ว) และประชาชนมาร่วมสวดคืนสุดท้ายเป็นจำนวนมาก. ภาพข่าว : วงศกร ศรีสวัสดิ์ ทีมข่าวสระแก้ว/รายงาน
ในการทำงานของข้าราชการนั้นย่อมต้องมีสถานที่ทำงานเป็นสำนักงานในการเปิดให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งทั้งแทบทั้งหมดล้วนมาจากภาษีประชาชน แต่กลับมาข้าราชการจำนวนมากมองว่าสถานที่ทำงานที่มาจากภาษีประชาชนเพื่อบริการประชาชนเป็นเสมือน”สิ่งบ่งบอกฐานะบารมีของตนเอง” สำหรับหน่วยงานระดับกระทรวง ทบวง กรม ที่มีบทบาทหน้าที่ภารกิจระดับประเทศ ย่อมต้องมี”ห้องรับรอง”เพื่อใช้รับรองบริการแขกบ้านแขกเมืองหรือผู้มีเกียรติ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศถ้ามีเพื่อภารกิจของหน่วยงาน แต่มีผู้บริหารหน่วยงานจำนวนมากใช้งบประมาณจำนวนมากในการปรับปรุงห้องทำงานของตนเองให้หรูหราเกินจำเป็น บางแห่งเฟอนิเจอร์หรือของประดับห้องนำเข้ามาจากยุโรป บางแห่งก็บ้าสะสมงาช้างและเครื่องประดับโบราณ ทั้งที่หน่วยงานของตนเองก็มีห้องรับรองแขกอยู่แล้ว บางหน่วยงานมีมากกว่า 1 แห่งด้วยซ้ำ แล้วบางคนปรับปรุงเสร็จก็ไม่เปิดรับรองแขกเลย แค่เอาไว้อวดเพื่อนๆผู้บริหารด้วยกัน แต่ก็ดันทุรังเอางบประมาณจากภาษีประชาชนจำนวนมากมาปรับปรุงห้องทำงานของตนเพื่ออวดบารมีทั้งที่บางคนย้ายมารับตำแหน่งแค่ 4 ปี แล้วก็ต้องหมุนเวียนไปรับตำแหน่งที่อื่นต่อ แล้วคนใหม่มารับตำแหน่งก็รื้อปรับปรุงใหม่อีก เวียนเป็นวัฏจักรที่สิ้นเปลืองแบบนี้เรื่อยไป เพราะการปรับปรุงแต่ละครั้งใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่าหลักล้าน คิดดูสิว่าภาษีประชาชนถูกเอามาละลายกับเรื่องแบบนี้อยู่ตลอด ประชาชนรู้เข้าเขาจะติดยังไง อีกฟากหนึ่งของห้องผู้บริหารอันหรูหรา สถานที่ทำงานของข้าราชการและพนักงานราชการนั้นกลับได้รับการปรับปรุงในแต่ละครั้งอย่างยากลำบากและได้รับงบประมาณเพียงน้อยนิด ทั้งที่เป็นส่วนงานที่ไว้บริการประชาชน หลายๆแห่งบุคคลาดรต้องทนใช้งานครุภัณฑ์ที่มีอายุมากกว่าพ่อแม่ของพวกเขาเสียอีก บ้างก็มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยแต่ก็ต้องทนใช้งานเพราะมันยังใช้งานได้อยู่เท่านั้น เพื่อให้สามารถบริการประชาชนต่อไปได้ ยังไม่รวมถึงฝ่ายสนับสนุนงานของข้าราชการและพนักงานข้าราชการอย่างคนงาน แม่บ้าน และรปภ.ที่ส่วนใหญ่เป็นพนักงานจ้างรับเหมาบริการหรือพนักงานจ้างตามสัญญาบริการ ที่ช่วยดูแลสถานที่ราชการและช่วยสนับสนุนงานบริการประชาชนกับข้าราชการและพนักงานราชการ แต่สวัสดิการแทบไม่มี ไม่มีแม้แต่ประกันสังคม หลายๆคนเคยเป็นลูกจ้างประจำหรือพนักงานราชการมาก่อน แต่เกษียณแล้วและยังรักหน่วยงานจึงมาทำหน้าที่ดังกล่าว แต่กลับไม่ค่อยได้รับการดูแลที่ดีนัก บางหน่วยงานยังจ่ายเงินเดือนไม่ตรงเดือนบ่อยๆก็มี ทั้งที่เงินเดือนพวกเขาแค่หลักพันเอง รวมถึงสถานที่ทำงานก็ยังถูกจัดสรรให้ไม่ค่อยดี บางที่ให้พักในอาคารที่ใกล้พังก็มี ทั้งที่พวกเขาก็คือฟันเฟืองหนึ่งของระบบราชการ สุดท้ายนี้ การเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้เพื่อโจมตีผู้หลักผู้หลักผู้ใหญ่แต่อย่างใด แต่เพียงอยากส่งเสียงให้ท่านพิจารณาการใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและรอบคอบ ไม่ใช่ใช้เพื่อสนองความต้องการของตนเองโดยไม่ได้เป็นส่วนช่วยในการทำงาน เงินทุกบาททุกสตางค์ล้วนมาจากหยาดเหงื่อแรงกายของประชาชน และลูกน้องของท่านทุกระดับไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือไม่ใช่ข้าราชการ ควรช่วยสนับสนุนการทำงานของเขาเพื่อที่เขาจะได้ให้บริการประชาชนให้ได้ดี […]
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ก.พ.68 พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เดินทางมาพบปะนายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส และคณะกรรมการอิสลามระดับอำเภอ ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อพบปะพูดคุยร่วมกับ ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส และ น.อ.สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผบ.ฉก.นย.ทร.รวมทั้งตัวแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นในช่วงเทศกาลถือศีลอด หรือ เดือนรอมฎอน แก่ตัวแทนแต่ละพื้นที่ ซึ่งการถือศีลอดของชาวไทยมุสลิมปีนี้ สำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศดูดวงจันทร์ในวันที่ 28 ก.พ.68 แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้เป็นตัวแทนรัฐบาลส่งมอบความปรารถนาดี แก่พี่น้องประชาชนในจังหวัดนราธิวาส และร่วมประกาศเจตนารมณ์ทำให้พื้นที่ปราศจากเหตุการณ์ความรุนแรง ในช่วงเดือนรอมฎอมที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในเดือนรอมฎอน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ บนพื้นฐานความหลากหลายในสังคมพหุวัฒนธรรม ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนร่วมปฏิบัติตนที่ดีต่อกันในเดือนรอมฎอนตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม ด้านนายซาฟีอี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส กล่าวว่า ขอให้พ่อแม่พี่น้องในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและพื้นที่ใกล้เคียงขอให้ปฏิบัติในสิ่งที่ดี และสิ่งที่สำคัญที่อัลลอฮโปรดปราน โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอนและในเดือนอื่นๆที่ไม่ใช่เดือนรอมฎอนก็เช่นกัน […]
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมสภาสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัย นราธิวาสราชนครินทร์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมการปฐมนิเทศนักศึกษา โครงการสหกิจศึกษานานาชาติ ด้านการเกษตร ณ ประเทศออสเตรเลีย ประจำปีการศึกษา 2568 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จักรพันธ์ พิชญพิพัฒน์กุล คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ในนามผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลาการ คณะเกษตรศาสตร์ คณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทั้งนี้ตามที่นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีวิสัยทัศน์ในการสร้างเสริมความเป็นนานาชาติ โดย“การสนับสนุนให้ นักศึกษาไปศึกษาต่อและฝึกสหกิจศึกษาในต่างประเทศ” ซึ่งเป็น หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ และเติบโตในระดับสากล ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าว มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ โดยคณะเกษตรศาสตร์ จึงได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ กับ วิทยาลัยเกษตรและพืชสวนแห่งออสเตรเลีย (Australian College […]
วันที่ 26 ก.พ.68 ที่โรงแรมมรกตทวิน ตำบลท่าตะเภา อำเภอเมืองชุมพร นายอภิชาติ สาราบรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดโครงการ “ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพอาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขับเคลื่อนงานตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจำปี 2568 นางสาวจีรดา ธรรมาภิมุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพ และมีภูมิคุ้มกัมกันต่อการปลี่ยนแปลงสร้างเสริมเครือข่ายจากทุกภาคส่วนในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม รวมถึงการจัดระบบสวัสดิการที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ เพื่อให้ประชาชน มีหลักประกัน และมีความมั่นคงในชีวิต ซึ่งในการขับเคลื่อนภารกิจต่างๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือของครือข่ายที่มีอยู่ในซุนชน ซึ่งปัจจุบันจังหวัดชุมพรมีอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 4,351 คน ครอบคลุมในทุกพื้นที่ เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานด้านการจัดสวัสดิการสังคม เป็นเครือข่ายการค้นหา เฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ไข และพัฒนาสังคมในระดับพื้นที่อีกทั้งเป็นกลไกการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ให้การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก เยาวชน สตรี ครอบครัว ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้อ้อยโอกาล ผู้โด้รับผสกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิดี และมีภูมิคุ้มกัน เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร […]
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู (จังหวัดที่ 18 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 21 ครัวเรือน เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวหนองบัวลำภูในครั้งนี้ทั้งสิ้น 523,160 บาท (ห้าแสนสองหมื่นสามพันหนึ่งร้อยหกสิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ […]
จากการสำรวจพบว่าในแต่ละจังหวัดมีสินค้าอุปโภค – บริโภค เกรดดีมีมาตรฐานราคาไม่แพงจำนวนมากแต่ส่วนใหญ่มักขาดโอกาสได้รับการส่งเสริมไม่มีช่องทางในการจำหน่ายและไม่สามารถที่จะแข่งขันกับระบบทุนรายใหญ่ได้ จึงทำให้หลาย Brand สินค้าล้มหายตายจากไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งตรงกับสำนวน “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” และเพิ่มความยากในการทำธุรกิจในชั่วโมงนี้เพิ่มไปอีกสำนวน คือ “ปลาไวกินปลาใหญ่” นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่าหลายโครงการฯที่ได้จัดขึ้นมีวัตถุประสงค์ให้การช่วยเหลือสังคมตามวาระต่างๆหลายครั้งมีการซื้อสินค้าอุปโภค – บริโภค เพื่อนำไปบริจาคจะเป็นการซื้อสินค้าแบบเร่งด่วนไม่มีแบบแผนในการจัดซื้อและส่วนใหญ่จะไปอุดหนุนสินค้าที่ร้านค้าเอกชนขายส่งขนาดใหญ่ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการ Brand สินค้าดีขนาดเล็กขาดโอกาสไม่ได้รับการส่งเสริมอุดหนุนสินค้าเลย พีพีเอฟโฟร์ PPF4 (Peaceful Peace Fourth factor) ซึ่งเห็นปัญหาและให้ความสำคัญ จึงริเริ่มนำร่องเป็นสื่อกลางที่ต้องการส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีสินค้าดีมีคุณภาพแต่ Brand อาจยังไม่เป็นที่รู้จักติดตลาดมาก หรือ ผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดเคยใช้งบประมาณที่ไม่มากในการโฆษณาสินค้าและผลตอบรับไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ (สินค้าเหลือค้างสต็อค) โดยโครงทางฯจะเปิดช่องทางในการสร้าง Brand สินค้าให้มีภาพลักษณ์ที่ดี (Good View) และหาช่องทางให้สินค้าได้รับการสนับสนุนด้วยการอุดหนุนซื้อสินค้าเพื่อนำไปบริจาคตามหลักการสิทธิมนุษยชน (Human Rights)ในลำดับต่อไป หลักการสำคัญจะเปิดรับผู้ประกอบการ / เจ้าของ Brand สินค้า จำนวน 100 ราย ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภค- บริโภค โดยจะแบ่งประเภทเป็น 3 หมวด […]
25 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวสมฤทัย พิมพ์สวัสดิ์ อายุ 35 ปี พร้อมลูกแชร์กว่า 10 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมื่องประจวบฯให้ดำเนินคดีเอาผิด พรบ.แชร์ พ.ศ.2534 ข้อหาฉ้อโกง กับนางสาวพัชรดา (เป็นเท้าแชร์) ทำให้เสียหายสูญเงินร่วมกับพวกกว่า 1 ล้านบาท โดยนางสาวสมฤทัย เล่าว่า นางสาวพัชรดา ตั้งวงแชร์ผ่านไลน์กว่า 60 วง จากนั้นชวนตนและเพื่อนให้มาร่วมเป็นสมาชิกวงแชร์ ตนและสมาชิกหลงเชื่อเนื่องจากที่ผ่านมามีความหน้าเชื่อถือ โดยที่ตนไม่ทราบว่า วงแชร์ที่นางสาวพัชรดาตั้งขึ้นกว่า 60 วง มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอ้างแชร์ล้มบ้าง แต่พฤติการณ์กลับนำสมาชิกไปเปิดแชร์วงใหม่ผ่านไลน์ โดยไม่ได้รับความยินยอมเพื่อนำเงินมาจ่ายให้สมาชิกที่ยังติดค้างหลังแชร์ตาย โดยจะทำพฤติกรรมแบบนี่หมุนเวียนไปเรื่อย ปัจจุบันเกิดความเสียหายยอดรวมกว่า 20 วง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,179,000 บาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้ตนและพวกเกิดความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พรบ.แชร์ พ.ศ.2534 ความผิดฐานฉ้อโกง กับนางสาวพัชรดาต่อไป นัครินทร์/รายงานข่าว