รัฐเสริมจุดแข็งด้านสาธารณสุขให้ประชาชนถึงระดับตำบล

รัฐเสริมจุดแข็งด้านสาธารณสุขให้ประชาชนถึงระดับตำบล
ถ่ายโอนสถานีอนามัย – รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลให้ อบจ.รับไม้ต่อ

รัฐบาลส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งโอนสถานีอนามัย – โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ๔๙ จังหวัด ให้ อบจ.ร่วมเป็นกลไกเพิ่มการเข้าถึงสุขอนามัยให้ประชาชนครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๕ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกการส่งมอบภารกิจการถ่ายโอนสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด รวม ๔๙ จังหวัด โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน ได้แก่ สาธารณสุขอำเภอ ท้องถิ่นจังหวัด และผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตจังหวัด และมีผู้เข้าร่วมพิธีจากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย สำนักงบประมาณ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

สำหรับพิธีลงนามในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเข้ามามีบทบาทหน้าที่ในการบริหารจัดการศูนย์สุขภาพในเขตจังหวัด เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค การฟื้นฟูสภาพ และการรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นอย่างทัดเทียมกัน ตามที่แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ กำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นต้นมา ในระยะแรกให้ถ่ายโอนตามความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ได้แก่ เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้งหมดประมาณ ๙,๘๐๐ แห่ง ถ่ายโอนให้แก่เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล เพียง ๘๔ แห่ง และระยะสุดท้ายหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดไม่พร้อมรับการถ่ายโอนก็ให้ถ่ายโอนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดดำเนินการ

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยฯ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเป็นไปตามที่ประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ กำหนด คณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขในการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยฯ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน ๓,๒๖๕ แห่ง รวมบุคลากรรวมทั้งสิ้น ๒๑,๙๑๗ คน ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้ง ๔๙ จังหวัด และให้เสนอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ สำหรับองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณหรือได้รับการจัดสรรไม่ครบถ้วนตามที่ได้มีการพิจารณาร่วมกันต่อไป

“ในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินการร่วมกับรัฐบาลในการบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกัน บำบัดและควบคุมการระบาดของ COVID-19 เป็นอย่างดี อีกทั้งได้มีการจัดทำบันทึกตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานการกระจายอำนาจด้านการสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาลเบื้องต้น กรณีการป้องกัน บำบัด และควบคุมโรค COVID-19 และโรคอุบัติใหม่ในอนาคต ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปด้วยดี และได้การยอมรับจากทุกภาคส่วนในสังคมและทั่วโลก” ปลัดสำนักนายกฯ กล่าว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: ห้าม Copy เนื้อหาและรูปภาพ By มติรัฐ