จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง คือ จุลินทรีย์ในกลุ่มแบคทีเรียที่มีความสามารถในการสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างอาหารได้ ซึ่งทำให้มีคุณสมบัติในการย่อยสลายแร่ธาตุในดินทำให้พืชดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้น บางกลุ่มช่วยในการการตรึงธาตุไนโตรเจนลงในดิน อาจช่วยกระตุ้นรากพืชให้แตกขยายได้รวดเร็วและควบคุมจุลินทรีย์ไม่ดีไม่ให้ขยายตัวจนเป็นปัญหา ซึ่งจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงนั้นมีหลายสี ทั้งแดง ม่วง น้ำตาล สามารถใช้งานร่วมกับปุ๋ยหรือน้ำหมักชีวภาพที่หมักด้วยกากน้ำตาลได้ดีอีกด้วย เพราะมีคุณสมบัติเป็นด่าง อันเป็นสภาวะตรงข้ามกับน้ำหมักด้วยกากน้ำตาลที่มีคุณสมบัติเป็นกรด สำหรับการเพาะขยายจุลินทรีย์สังเคราะแสงนั้นทำได้ง่ายมาก ในที่นี้จะแนะนำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจาก 2 แหล่ง คือ ซื้อมากับหามาจากธรรมชาติ -แบบซื้อมา สามารถหาซื้อได้จากผู้ค้าทั่วไป ส่วนมากมักจะมีสีม่วงเข้มหรือสีแดงเข้ม เป็นสายพันธุ์ที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว จึงสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็ว -แบบหามาจากธรรมชาติ คือ การนำจุลินทรีย์จากน้ำในธรรมชาติ น้ำบาดาล หน้าดิน โคลนเลน ดินบริเวณที่โดนแสงหรือบริเวณรากต้นไม้ มาทำการขยาย มีข้อดีคือทนต่อสภาพแวดล้อมที่ใช้งานได้ดี เพราะเป็นจุลินทรีย์ท้องถิ่น ส่วนมากจะมีสีแดงเรื่อหรือสีน้ำตาล นำหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้มาใส่ในขวดขนาด 1.5-2 ลิตร จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไป 1 ฟองพร้อมเปลือก เขย่าให้เข้ากันแล้วเติมน้ำจนเกือบเต็มปิดฝาหลวม ๆ ไปวางตากแดดทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ เชื้อก็จะเริ่มขยายและเจริญเติบโต สูตรนี้จะใช้แค่ไข่จะไม่ใส่น้ำปลาหรือกะปิหรือผงชูรสเพราะอาจจะเพิ่มเกลือให้ความด่างเพิ่มมากจนเป็นอันตรายต่อพืชได้ รวมถึงประหยัดต้นทุน เมื่อใช้งานให้ผสมอัตรา 1:1000 (1 ช้อนโต๊ะ […]
Monthly Archives: December 2024
วันที่ 7 ธ.ค. 67 คณะกองบรรณาธิการ นสพ.มติรัฐ โดยมี นายสัณพงศพร ผลพิทักษ์ พร้อมทีมสื่อมวลชนและสื่อมวลชนอาสาภาคประชาชน เดินทางเข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อพระมหาประกอบ ธัมมชีโว ณ วัดป่ามหาไชย จ.สมุทรสาคร เพื่อรับมอบ สิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ซึ่งทางวัดได้จัดไว้ให้ เพื่อนำไปส่งมอบให้กับ สมาคมสื่อภูมิภาค จังหวัดชุมพร และ สำนักงานอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทางกองบรรณาธิการได้ จัดกิจกรรม “ปันสุข สู่ฝัน” กำหนดการเดินทางส่งมอบ ในวันที่ 13 – 14 ธ.ค. 67 นี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน
วันที่ 6 ธ.ค.67 เมื่อเวลา 15.01 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ ห้องกานดา ฮอลล์ โรงแรมบียอนด์ กะตะ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงานฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงานฯ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ฯ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ และกราบบังคมทูลเบิก พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย จากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเควินรอเบิร์ต วิทคร๊าฟท์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ กราบบังคมทูลเบิก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เข้ารับรางวัลชนะเลิศ ในนามทีมเรือใบวายุ และเบิกผู้ชนะการแข่งขัน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัลต่างๆ และผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขัน ฯเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึกตามลำดับ ต่อจากนั้น […]
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2040 ที่ผ่านมา นาย ดำรงชัย ปานจุ้ยเจริญดี นายกสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย ได้จัดให้มีการเสวนาปัญหาต่างๆของทางสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย โดยคำนึงถึงปัญหาการประชาสัมพันธ์ที่ทางสามาคมฯยังไม่มีผู้ที่มีความสามารถในทำการประชาสัมพันธ์อย่างมืออาชีพที่แท้จริง ดังนั้น นาย ดำรงชัย ปานจุ้ยเจริญดี นายกสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย จึงได้นำเสนอเรียนเชิญคอลัมนิสต์อาวุโส “หมึก มายา” หัวหน้าข่าวบันเทิง BANGKOK TODAY ONLINE และ แนวหน้า ออนไลน์ เข้ารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา กิตติมศักดิ์ (ฝ่ายประชาสัมพันธ์)ให้ทางสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายจักรพงษ์ จันทะวงษา เป็นที่ปรึกษาเข้าร่วมทำงานประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆให้กับทางสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย cr.เสาร์แก้ว คำพิวงค์ ผู้สื่อข่าวภาคสนามรายงาน 087-719-9429
ประมวลภาพพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ในวันอังคารที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๗ ณ พระลานพระราชวังดุสิต Credit : กองบัญชาการกองทัพไทย
ในปัจจุบันประเทศไทยเป็นแหล่งลงทุนของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะ นักลงทุนชาวจีนแผ่นดินใหญ่และจีนไต้หวัน โดยเฉพาะ”ภาคอุตสาหกรรม” ที่สร้างเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำจากอุตสาหกรรมบางอย่างที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในประเทศจีนหรือไต้หวัน เพราะติดปัญหาด้านกฎหมายและปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงก่อเกิดปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมมากมายตามมา เช่นเรื่องโรงหล่อโลหะ ปล่อยควันพิษ กากแคดเมียม โรงงานรีไซเคิล (Recycle) ขยะ และปัญหาเรื่องกากอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่เป็นทำเลที่ดีในการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยติดกับพื้นที่กรุงเทพฯ ใกล้กับท่าเรือคลองเตยและเครือข่ายรถไฟขนส่งอุตสาหกรรมไปภาคตะวันออก และเป็นพื้นที่ที่จัดอยู่ในโซนอุตสาหกรรมเพราะ ”เงิน ซื้อได้ทุกสิ่งในที่แห่งนี้”, หากจะสร้างโรงงานก็จำเป็นต้องซื้อที่ดินเป็นของตนเอง ดังนั้นกลุ่มทุนจีนเหล่านี้จึงมักติดต่อ ”นายหน้าค้าที่ดินสำหรับคนจีนโดยเฉพาะ” ซึ่งขบวนการนี้มี ”เจ้าหน้าที่ของรัฐ” อยู่ในขบวนการด้วย โดยปกติที่ดินที่จะสร้างโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างน้อยจะต้องเป็นพื้นที่สีเหลืองขึ้นไป เพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องจักรตามกำลังที่กฎหมายกำหนดและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน โดยเฉพาะเสียงที่เกิดจากเครื่องจักรและมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ แต่ขบวนการนี้กลับไม่สนเรื่องนี้ แล้วหลอกขายที่ดินใน ”พื้นที่สีเขียว” ที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมทั้งที่รู้ว่ามันสร้างโรงงานไม่ได้ ซึ่งกลุ่มทุนจีนก็มักไม่รู้ถึงเรื่องนี้ จึงซื้อที่ดินดังกล่าวเอาไว้เนื่องจากมีราคาถูก ก่อนที่จะรู้ความจริงในภายหลัง พอถึงขั้นนี้แล้วขบวนการดังกล่าวก็จะเสนอตัว ”คุยกับผู้มีอำนาจในภาครัฐ เพื่อจ่ายใต้โต๊ะให้ได้ใบอนุญาตสร้างโรงงาน” โดยคิดค่าดำเนินการหลักหลายแสนบาท กลุ่มทุนเหบ่านี้ก็ต้องยอมจ่ายค่าเคลียร์ทางดังกล่าวให้กลุ่มนายหน้า ไปดำเนินการเคลียร์กับผู้มีอำนาจในพื้นที่ เพื่อให้สร้างโรงงานในพื้นที่สีเขียว ที่ได้ซื้อที่ดินเอาไว้แล้ว(ซึ่งส่วนมากจะอยู่กลางชุมชน) ให้แล้วเสร็จจะได้ไม่ขาดทุน ทำให้กลุ่มนักลงทุนชาวจีน กลายเป็นจีนเทาทำผิดกฎหมายโดยสมบูรณ์ ทั้งที่ความจริงก็ไม่ได้อยากทำ แต่จำใจต้องทำไม่งั้นก็จะขาดทุน โดยกลุ่มทุนจีนที่เป็นเหยื่อมักจะเป็นกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยไม่นานในพื้นที่บริเวณอำเภอกระทุ่มแบนและเขตติดต่อกับอำเภอเมืองสมุทรสาครนั่นเอง ฝากผู้มีอำนาจในเรื่องนี้ช่วยมาสอดส่องและจัดการเรื่องนี้ก่อนที่จะเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาและอาจสายเกินแก้ต่อไป บทความโดย ว่าที่ร้อยตรีเพชรายุทธ […]
“วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่” เหมือนพระดำรัสซึ่งเป็นพุทธพจน์ว่า “รตฺตินฺทิวา วีติปทนฺติ” วันและคืนมันก็ผ่านไปตามกาลเวลาของมัน ตรงนี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญต้องคิดให้ได้ว่า “บัดนี้เราทำอะไรอยู่” คือทำอะไรอยู่ในขณะที่เราต้องหมุนเวียนอยู่ในภพชาติต่างๆ อันนี้คือแนะให้อยู่กับปัจจุบัน เป็นการประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม เหมือนที่พวกเราทั้งหลายกำลังทำกันอยู่ในขณะนี้ อย่าได้ละปัจจุบัน หากให้ละอดีตและอนาคต อย่าละปัจจุบัน คำว่าปัจจุบันมันอยู่ภายในของการหมุนเวียน ชีวิตอินทรีย์มันจะผกผันไปอย่างไร ก็อย่าทิ้งปัจจุบัน เหมือนกับว่าเราจะหายใจเข้าสั้นหรือยาวประการใด ก็อย่าทิ้งปัจจุบัน ภพชาติที่หมุนเวียนไป จะกี่ภพกี่ชาติก็ตาม ปัจจุบันจะเป็นแกนกลางอยู่เสมอ การเข้าสู่ภาคปฏิบัติจึงมุ่งสู่การเป็นปัจจุบันให้ชัดเจน…ท่านผู้ฟังทั้งหลาย เมื่อพูดเช่นนี้ก็ดูเหมือนว่าตัวเราเองนี้ เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง จริงๆแล้วคือควรเป็นเช่นนั้น การได้สมบัติคือความเป็นมนุษย์นี้ เป็นสมบัติอันประเสริฐที่สุด แม้นใครต่อใครที่ปรารถนาอยากจะเกิดมาเป็นมนุษย์ มิใช่เรื่องง่ายๆเลย ดังพระพุทธภาษิตที่พระองค์ตรัสแก่พญานาคราช ซึ่งแปลงกายเป็นมาณพน้อยมาฟังธรรมกับพระองค์ พอฟังธรรมจบกลับไม่ได้บรรลุคุณธรรมพิเศษอันใด คงได้แค่ขอถึงไตรสรณคมน์เท่านั้น เพราะภพของท่านเป็นภพที่อาภัพจากมรรคผลนิพพาน พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “กิจฺโจ มนุสฺสปฏิลาโภ การได้สมบัติคือความเป็นมนุษย์เป็นเรื่องยาก” เพราะต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลายๆอย่างมาประกอบกัน เพื่อให้ความเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ เมื่อได้ความเป็นมนุษย์แล้ว จึงถือว่าเป็นศูนย์กลางของภพภูมิ ที่ผู้เป็นมนุษย์นั้นจะเลือกเดิน ก็คือจะไปทางซ้ายหรือทางขวา จะเดินหน้าหรือถอยหลัง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์เอง นั่นหมายถึงว่าจะไปนรก คือภพภูมิที่ต่ำกว่าการเป็นมนุษย์ หรือจะไปสวรรค์คือภพภูมิที่สูงกว่าการเป็นมนุษย์ หรือว่าไม่ต้องการทั้งสองภพภูมินั้น เอาเพียงภพภูมิกลางๆนี้แล้วบำเพ็ญเพียรภาวนามุ่งต่อมรรคผลนิพพาน ความเป็นมนุษย์จึงเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง […]
วันที่ 1 ธ.ค. 67 เวลา 7.00-9.00 น. สว. ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ พร้อมคณะทำงาน จัดกิจกรรม Morning talk โดยมี นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าหน่วยงานราชการ และตัวแทนชุมชน เข้าร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหา ในพื้นที่พร้อมกำชับหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ ให้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนถูกต้อง เป็นธรรม โดยเฉพาะปัญหาแรงงานข้ามชาติ ที่กระทำผิดกฎหมาย การเข้ามาประกอบอาชีพสงวนที่กำหนดไว้สำหรับคนไทย ทั้งนี้บรรยากาศในวงสนทนาได้ร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เข้าระบบการบริหารจัดการที่กระชับฉับไว และขยายแนวทางการแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อไป
- 1
- 2